ชาวบ้าน 4 ตำบลบางละมุง ร้องสภาทนายความจังหวัดพัทยา โดน กฟผ.มัดมือชก ก่อสร้างระบบโครงข่ายไฟฟ้าแรงสูง
ชาวบ้าน 4 ตำบล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รวมตัวร้องสภาทนายความจังหวัดพัทยา โดน กฟผ.มัดมือชก ก่อสร้างระบบโครงข่ายไฟฟ้าความแรงสูงผ่านพื้นที่ทำกินชาวบ้านหวั่นอันตรายและสร้างความเสียหายให้พื้นที่เกษตรกรรรม
วันนี้ (19 ก.ย.62) กลุ่มชาวบ้านจาก 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลหนองปลาไหล ตำบลตะเคียนเตี้ย ตำบลโป่ง และตำบลเขาไม้แก้ว ในเขตอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ได้รวมกลุ่มกันยื่นหนังสือกับนายเฉลิมวัฒน์ วิมุกตายน ประธานสภาทนายความจังหวัดพัทยา หลังได้รับความเดือดร้อนจากโครงการจากทางภาครัฐ โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้ทำการก่อสร้างระบบเครือข่ายไฟฟ้าความแรงสูงผ่านพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านเกรงจะเกิดอันตรายและสร้างความเสียหายให้ประชาชนจากการดำเนินการโครงการพัฒนาประเทศของทางภาครัฐ
โดย นายวิชาญ บำรุงยา สมาชิกสภาเทศบาลตำบลโป่ง ผู้ได้รับความเดือดร้อนรายหนึ่งที่โดนโครงการของ กฟผ.พาดผ่านพื้นที่รวม 10 ไร่ กล่าวในฐานะตัวแทนของชาวบ้านพื้นที่ตำบลโป่ง ว่าที่ผ่านมาประมาณปี 2561 มีเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าในการสำรวจพื้นที่เพื่อกำหนดเขตระบบโครงข่ายไฟฟ้า 230 กิโลโวลต์ ตัดตอนระบบโครงข่ายไฟฟ้า 230 กิโลโวลต์ ระยอง 2-อ่าวไผ่ ลงสถานีไฟฟ้าย่อยบางละมุง 2 และระบบโครงข่ายไฟฟ้า 230 กิโลโวลต์ ตัดตอนระบบโครงข่ายไฟฟ้า 230 กิโลโวลต์ ระยอง 2-บ่อวิน ลงสถานีไฟฟ้าย่อยบางละมุง 2
ต่อมาในปี 2562 ได้มีการก่อสร้างระบบโครงข่ายไฟฟ้าดังกล่าว โดยมีการติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาดใหญ่และกั้นเซ็ตแบ็กพื้นที่รอบเสาไฟเพื่อความปลอดภัย ทำให้กินพื้นที่ของชาวบ้านจำนวนมาก และชาวบ้านต้องเสียโอกาสไป เหมือนถูก กฟผ.มัดมือชกโดยที่ชาวบ้านไม่มีทางต่อสู้ ที่ผ่านมามีการสำรวจทรัพย์สินที่ดินเวนคืนเพื่อจ่ายค่าชกเชยให้เจ้าของที่ดิน แต่คงไม่เพียงพอต่อความรู้สึกของชาวบ้าน ทั้งในเรื่องของความหวาดกลัวอันตรายจากไฟฟ้าแรงสูง และสร้างความเสียหายให้พื้นที่เกษตรกรรมที่มีอยู่เดิมไปเป็นจำนวนมาก จึงรวมกลุ่มกันมาร้องขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความฯ
ด้าน นายเฉลิมวัฒน์ วิมุกตายน ประธานสภาทนายความจังหวัดพัทยา กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของชาวบ้านใน 4 ตำบล อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี คือ ตำบลโป่ง ตำบลเขาไม้แก้ว ตำบลตะเคียนเตี้ย และตำบลหนองปลาไหล ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการโครงการของภาครัฐ ซึ่ง กฟผ.เองก็มี พ.รบ.ประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 ที่ช่วยให้สามารถจ่ายเงินชดเชยให้ผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการนั้น ๆ ได้ ซึ่งยังคงใช้เวลาอีกนานในการทำประชาพิจารณ์
ชาวบ้านยังมีโอกาสที่จะทำเรื่องอุทธรณ์ไปยังคณะกรรมการ กฟผ.เพื่อพิจารณาความเหมาะสมตามลำดับ และหากคิดว่ายังไม่ได้รับความเป้นธรรมก็ยังจะสามารถร้องต่อศาลปกครองได้ แต่เชื่อว่าจะต้องมีการเจรจาพูดคุยหาทางออกเพื่อความเป็นธรรมและความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย เพราะต้องมีคนเสียสละเพื่อที่จะให้ประเทศชาติพัฒนาต่อไปได้ แต่จะชดเชยกันยังไงก็คงต้องมาว่ากันอีกครั้ง ทั้งนี้ทางสภาทนายความจังหวัดพัทยาจะได้รับข้อร้องเรียนดังกล่าวไว้ และจะได้ทำหนังสือสอบถามแนวทางกับ กฟผ.ว่าจะมีความชัดเจนอย่างไร ถ้าย้ายแนวเขตพื้นที่เสาไฟฟ้าไม่ได้ ก็ต้องมาคุยเรื่องการชดเชยความเสียหายตามลำดับ……