โผล่อีก 4 ราย เหยื่อแก๊งจำนำทองปลอม ล่าสุดยังพบก่อเหตุในพื้นที่สกลนคร
17 ส.ค.63 จากกรณีที่เจ้าของห้างทองนิตเทียน ตั้งอยู่เลขที่ 263/197 ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ถูกแก๊งมิจฉาชีพนำทองปลอมกว่า 376 บาท มาจำนำ มูลค่าความเสียหาย 9 ล้านบาทโดยประมาณ เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นมา โดยผู้เสียหายเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2563 และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุสัญชาติลาวได้ไว้ 1 รายนั้น
ล่าสุด นางสาว อนัดดา เทียนใหม่ เจ้าของห้างทองนิตเทียน เปิดเผยว่า หลังจากมีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ขณะนี้มีผู้ประกอบการร้านทองในเขตพื้นที่เมืองพัทยาด้วยกันที่ถูกขบวนการมิจฉาชีพแก๊งค์นี้หลอกจำนำทองปลอม ได้ติดต่อมาเพื่อสอบถามแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยล่าสุดมีทั้งหมด 4 ราย และในพื้นที่จังหวัดสกลนคร อีก 1 ราย ส่วนในเรื่องของคดีตอนนี้ทางตำรวจจับผู้ร่วมขบวนการได้แล้ว 1 คน ซึ่งขณะนี้ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการขยายผลจับกุมเบื้องต้นทราบว่าผู้ร่วมก่อเหตุได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทำให้ขณะนี้รู้ตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว 4-5คน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยเพราะเกรงจะเสียรูปคดี ตนอยากจะขอเตือนให้เพื่อน ๆ กลุ่มผู้ประกอบการร้านทอง เช็คทองให้ละเอียดกว่าทุกครั้ง เพราะลักษณะทองปลอมที่มิจฉาชีพแก๊งนี้ผลิตมาคล้ายกับทองจริงมาก ซึ่งไม่สามารถดูได้ด้วยตาเปล่า หากไม่เฉือนเนื้อทองดู ทั้งนี้เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียน ต่อไปตนจะตรวจเช็คให้ละเอียดมากขึ้นกว่าที่ผ่าน จึงวอนขอไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี ให้ช่วยดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะตอนนี้เริ่มมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เฉพาะในพื้นที่เมืองพัทยา แต่ลามไปยังจังหวัดอื่น ๆ อีกด้วย
ด้านนายนายกฤษ เทียนใหม่ สามีผู้เสียหายคนดังกล่าว ยังเผยอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ความเสียหายที่ทางร้านจะได้รับอาจจะเกิดขึ้นบ้างในเรื่องของความน่าเชื่อถือ แต่ไม่อยากให้ผู้ประกอบการรายอื่นต้องมาเจอแบบร้านตน อยากให้มีการเฝ้าระวังกันมากขึ้นกว่าเดิมและร้านทองทั่วประเทศไทยต้องลุกขึ้นมาหารือกันบ้างแล้วว่าจะทำอย่างไรนับต่อจาก น่าจะมีมาตรการป้องกันจากทางสมาคมให้ผู้ประกอบการบ้าง
ส่วนนายสามารถ แจ่มเจริญ ผู้ประกอบการร้านทองแม่มาลี ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 36-11 ม.6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นผู้เสียหายอีกราย เผยว่า สำหรับกรณีของตนนั้น เหตุเกิดตั้งแต่ราคาทองยังไม่ได้ขึ้นสูงมาก เริ่มตั้งแต่ปลายเดือน พฤษภาคม จนถึงประมาณวันที่ 11 มิถุนายน 2563 ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพจะกระทำในทำนองเดียวกัน คือส่งคนสลับกันมาเรื่อย ๆ พร้อมนำทองรูปพรรณที่ดูเหมือนจริง หัวตะขอหัวเป็นของจริงและมิจฉาชีพกลุ่มนี้ทำการชุบทองมาหนามาก ก่อนการรับจำนำทุกครั้ง ก็ได้ถามถึงบัตรประชาชนแต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงโดยอ้างว่าลืมนำมาทุกครั้ง ซึ่งในส่วนของตนรับจำนำทองปลอมมาน้ำหนักรวมทั้งสิ้น 54 บาท เสียเงินไปประมาณ 1100,000 บาท ระยะเวลารวมกันประมาณ 10 วัน ซึ่งมารู้อีกที่ว่าเป็นทองปลอมในวันที่ตัดของเพื่อนำไปส่งที่ร้านส่งย่านเยาวราช จึงทำให้รู้ว่าเป็นทองปลอม หลังจากทราบว่าถูกหลอกก็ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว จึงอยากจะวอนขอเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมคนร้ายให้สิ้นทั้งขบวนกา รอยากให้สาวไปถึงบุคคลที่เป็นช่างทองของขบวนการนี้เพราะคิดว่าเป็นช่างทองที่อยู่ในวงการและเป็นมืออาชีพอย่างแน่นนอนเพราะปลอมได้เหมือนมาก…