เรือท่องเที่ยวพัทยาทำเสียรับครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย 6 คน ส่งเกาะสากถึงเวลากลับ ปล่อยรอเก้อจนมืดกู้ภัยทางทะเลร่วมตำรวจท่องเที่ยวรีบนำเรือไปรับกลับ

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 15 ม.ค. 66 นายทนงศักด์  ฉิมหลวง เจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจการพิเศษเมืองพัทยา ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากผู้ดูแลเกาะสาก ประสานงานขอความช่วยเหลือให้นำเรือไปรับครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย เป็นผู้ใหญ่ 4 ท่าน เป็นชาย 2 หญิง 2 และเป็นเด็ก 2 ท่านซึ่งขณะนี้ติดค้างอยู่บนเกาะสาก ซึ่งเป็นเกาะส่วนตัวไม่มีที่พัก เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวได้แต่ต้องกลับเวลา 17.00 น.

หลังได้รับแจ้งจึงประสานงานเจ้าหน้าที่กู้ภัย ทางทะเลเมืองพัทยานำเรือ ยางกู้ภัย 502 วิ่งตรงไปยังเกาะสากเพื่อไปรับนักท่องเที่ยวทั้ง 6 คนกลับมายังฝั่งเมืองพัทยา เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้ใช้ไฟส่องหานักท่องเที่ยวทั้ง 6 คน ซึ่งรออยู่ตรงท่าเรือเกาะช้างซึ่งไม่มีไฟฟ้าและสิ่งอำนวยความสะดวก

เมื่อมาถึงท่าเรือแหลมบาลีฮายเมืองพัทยาจากการสอบถามผ่านล่ามแปล ได้ทราบว่านักท่องเที่ยวได้ซื้อตั๋วเรือแบบไป – กลับ จากบริษัทชื่อมิสเตอร์ ณรงค์ เรือหมายเลข 005 ซึ่งให้บริการอยู่ในท่าเทียบเรือที่ 1 ( ท่าเรือสปีดโบ๊ทโป๊ะที่ 1) ในราคาคนละ 400 บาทต่อท่านรวมจำนวนเป็นเงินกว่า 2,400 บาท แต่เมื่อถึงเวลา 17.00 น.เรือสปีดโบ๊ทของบริษัทดังกล่าวไม่ได้ไปรับครอบครัวนักท่องเที่ยว ชาวรัสเซีย ตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งนักท่องเที่ยวครอบครัวชาวรัสเซีย ได้ถ่ายคลิปวีดีโอเรือลำที่ไปส่งไว้เมื่อมาถึงท่าเรือแหลมเลียฮาย นักท่องเที่ยวครอบครัวชาวรัสเซียเห็นเรือลำดังกล่าวจอดอยู่จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าเรือที่ไปรับคือเรือลำหมายเลข 005 ของบริษัท มิสเตอร์ณรงค์

หลังได้รับการช่วยเหลือจากกู้ภัยทางทะเลของเมืองพัทยาเมื่อมาถึงท่าเรือแหลมบาลีฮายครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียได้แสดงความขอบคุณและดีใจมากที่เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือในครั้งนี้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำครอบครัวชาวนักท่องเที่ยวรัสเซียทั้ง 6 คน ไปส่งยังที่พักโรงแรมลองบีช ย่านถนนพัทยานาเกลือ

ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจการพิเศษเมืองพัทยาจะประสานงานกับตำรวจท่องเที่ยวนำครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียทั้ง 6 คนเข้าแจ้งความ กับ สภเมืองพัทยาในเช้าวันรุ่งขึ้น (16 ม.ค.2566) กับ เรือ สปีดโบ๊ต มิสเตอร์ ณรงค์

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ พบว่าบริษัทเรือสปีดโบ๊ทไม่ได้ไปรับนักท่องเที่ยวครอบครัวชาวรัสเซีย ตามที่แจ้งไว้ แหล่งข่าวเชิงลึก ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า บริษัทของมิสเตอร์ณรงค์ เคยเกิดเหตุการณ์ ลักษณะนี้ ขึ้นหลายครั้ง แต่ไม่เป็นข่าวออกสื่อ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดความเสื่อมเสียภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวของเมืองพัทยาเป็นอย่างมาก……