วันศุกร์, ธันวาคม 20, 2024
อาชญากรรม

หนุ่มหึงโหดกระหน่ำยิงเมียดับคาร้านส้มตำ ก่อนวิ่งหนีเข้าป่าลั่นไกเป่าหัวตัวเองหวังหนีความผิดสาหัส สุดท้ายทนพิษบาดแผลไม่ไหวไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 1 มิ.ย. ร.ต.ท.รัชพล เสนีวงศ์ ณ อยุธยา รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางละมุง รับแจ้งเหตุชายทะเลาะวิวาทใช้อาวุธปืนแฟนสาวเสียชีวิตคาที่ ภายในร้านส้มตำ เจ๊อ้อ แซ่บปาก ตั้งอยู่บริเวณหน้าลานรถบัส ห.จ.ก. วิชชา ปัญญาชนเจริญ เลขที่ 117/28 ม.6 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคัญบัญชาทราบ ก่อน พ.ต.ท.มาโนช เพ็ชรประกอบ รรท.รองผกก.สส.ฯ และ พ.ต.ต.สุชาติ ดุสดี สวป. นำกำลังฝ่ายสืบสวน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยา ไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบว่ามือปืน ทราบชื่อคือ นายบัวลา คูณลาด อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดอุบลธานี อาชีพขับรถบัสรับส่งพนักงานโรงงานย่านแหลมฉบัง ใช้อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 ยิงเข้าที่ศีรษะตัวเองเข้าที่บริเวณขมับด้านขวา 1 นัด กระสุนฝังใน นอนหายใจรวยริน ในมือข้างขวายังกำอาวุธปืนลูกโม่ไว้แน่น ตำรวจจึงสั่งกั้นไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าใกล้ เพราะเกรงจะได้รับอันตราย ก่อนดึงอาวุธปืนออกจากมือได้สำเร็จ เพื่อเปิดทางให้ทีมแพทย์เข้าไปดูอาการ พบว่ามือปืนยังมีชีพจร ทีมแพทย์จึงติดเครื่องช่วยหายใจ และรีบตัวส่ง รพ.วิภาราม แหลมฉบัง ไปรักษาอาการอย่างเร่งด่วน

จากการตรวจสอบ ภายในร้านส้มตำ เจ๊อ้อ แซ่บปาก ตั้งอยู่เข้าทางเข้าลานจอดรถบัส ห่างจากจุดที่มือปืนยิงตัวเองประมาณ 30 เมตร พบศพนางไพรพนา แตะกระโทก อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดสระแก้ว ลูกจ้างร้านส้มตำ สภาพนอนจมกองเลือก สวมเสื้อสีแดง นุ่งกางเกงขาสั้นสีชมพู ใส่รองเท้าแตะสีดำ ในมือข้างขวายังถือทัพพีตักข้าว ส่วนมือข้างซ้ายกำถุงร้อนใส่อาหารอยู่ ถูกอาวุธปืนขนาด .38 ยิงเข้าที่ท้ายทอย ลำคอ รวม 4 นัด

จากการสอบถาม น.ส.ศิริพร โอนอ่อน อายุ 42 ปี เจ้าของร้านส้มตำ ให้การว่า ผู้ตายกับเธอรู้จักกันมานานกว่า 5-6 ปีแล้ว ก่อนได้มาทำงานที่ร้านส้มตำเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยปกติแล้วผู้ตายเป็นคนที่มีนิสัยดี ชอบคุยเล่น และที่สำคัญทำงานขยันแข็งขันมาตลอด ก่อนเกิดเหตุนั้น ได้ยินเสียงผู้ตายคุยโทรศัพท์มือถือทะเลาะกันกับแฟนหนุ่มมือปืน เรื่องเงินประมาณ 3,000 บาท จากนั้นไม่นานระหว่างที่ผู้ตาย กำลังตักข้าวให้ลูกค้า และเธอหันหลังเดินเอาของเข้าไปเก็บในลานจอด มือปืนได้วิ่งเข้ากระหน่ำยิงผู้ตายหลายนัดจนเสียชีวิตคาที่

นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตาย เคยพูดระบายว่าอยากเลิกลากับผู้ตาย เนื่องจากมีอารมณ์หึงหวง ชอบขุดคุ้นเรื่องในอดีตมาชวนทะเลาะเป็นประจำ แต่ด้วยที่ฝ่ายหญิงยังคงรัก และฝ่ายชายยังทำงานอยู่ใกล้กัน จึงทำให้ทั้งคู่ก็คบกันเรื่อยมา หลังเกิดเรื่องรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องมาเสียคนดีๆอย่างผู้ตาย

ขณะที่ นายองอาจ พรประเสริฐ 53 ปี เพื่อนร่วมงานผู้ตาย เล่าให้ฟังด้วยอีกว่า ระหว่างที่ผู้ตาย และมือปืนคบกัน มือปืนเคยขู่ฆ่าแฟนสาวตัวเองหลายครั้ง ด้วยความที่รู้จักทั้งสองฝ่ายกันมานาน จึงพูดเคลียร์ปัญหาหลายครั้ง โดยมือปืนจะชอบหาเรื่องผู้ตาย ในเรื่องอดีตที่เคยบอบช้ำใจ กระทั่งวันนี้ หลังจากนั่งรับประทานอาหารกัน มือปืนได้วิ่งเข้ามาเอาปืนกระหน่ำยิงจนเสียชีวิตคาที่ ก่อนที่มือปืนจะหนีหลบหนีไปป่าหญ้าด้านหลังตรงกำแพงลานจอด ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเพื่อฆ่าตัวตายตาม หวังหนีความผิด จึงรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ และพบว่ามือปืนยังไม่ตาย จึงประสานแพทย์ส่งตัวไปรักษา

เบื้องต้น จากการตรวจสอบอาวุธปืนลูกโม่ พบว่ามีทั้งหมด 6 นัด ใช้ยิงไปแล้ว 5 นัด และเหลือ 1 นัดที่ยังไม่ได้ใช้ โดยคาดว่า มือปืนใช้ยิงผู้ตาย 4 นัด และยิงตัวเอง 1 นัด ส่วนสาเหตุพบเกิดจากเรื่องหึงหวง และมีปัญหาเรื่องเงินทอง ต่อมาทีมแพทย์รพ.วิภาราม แจ้งมาว่ามือปืนนั้นทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตามตำรวจจเร่งสืบสวนสอบสวนพยานแวดล้อมผู้เห็นเหตุการณ์เพื่อสรุปหาสาเหตุต่อไป…..