ขีดเส้น 820 วันจ้างผู้รับเหมา 329 ล้านสร้างโครงการมหากาพย์ 15 ปีสนามกีฬาภาคตะวันออก เมืองพัทยาต้องแล้วเสร็จ
จากกรณีที่คณะจาก ปปช.รุดมาดูความคืบหน้าโครงการมหกาพย์สนามกีฬาภาคตะวันออก ขนาด 371 ไร่ ความจุขนาด 20,000 ที่นั่ง งบประมาณกว่า 774 ล้านบาท บนพื้นที่ ม.4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับร้องเรียนว่าโครงการดังกล่าวใช้เวลาสร้างมานานถึง 15 ปี หรือตั้งแต่ปี 2551 แต่ก็ยังไม่แล้วเสร็จเหมือนถูกปล่อยทิ้งร้าง ที่สำคัญอุปกรณ์ เครื่องใช้ภายในอาคาร ชำรุดเสียหายเนื่องจากขาดการดูแลเฝ้าระวัง ทั้งๆที่โครงการนี้มีเป้าหมายที่จะใช้เป็นศูนย์รวมการแข่งขันกีฬาทั้งในระดับท้องถิ่น และระดับประเทศที่มีมาตรฐานสากล ตามแผนก่อสร้างตั้งแต่ปี 2551-2560
ล่าสุด วันที่ 27 ก.ย.66 นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายกิตติพงศ์ ขลิบแย้ม ผอ.สนง.ปปช.จ.ชลบุรี คณะผู้บริหาร และสมาชิกสภาเมืองพัทยา รวมทั้งผู้รับจ้างการก่อสร้างโครงการสนามกีฬาฯ เข้าร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการก่อสร้างว่าปัจจัยที่ทำให้โครงการนี้ที่มีความล่าช้ามาตั้งแต่ปี 2551 นั้นมาจากหลายสาเหตุ แม้ว่าเมืองพัทยาจะได้รับงบประมาณอุดหนุนผูกพันจากรัฐบาลหลายปี ทั้งเรื่องของพื้นสนามที่มีลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่ที่ยากต่อการขุดเจาะ หรือปัญหาเรื่องแรงงานจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดจนส่งผลผู้รับจ้างทิ้งงานไป แม้จะใช้งบประมาณลงไปแล้วจำนวนกว่า 700 ล้านบาทแต่โครงการก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์
อย่างไรก็ตามปัจจุบันเมืองพัทยาได้นำเสนอของบประมาณจากสภาเมืองพัทยาเพื่อสรรหาผู้รับจ้างรายใหม่เข้ามาดำเนินการเพื่อให้โครงการแล้วเสร็จให้ได้ในสมัยนี้ ซึ่งจากการประกวดราคาทำให้ได้ บ.กรีนทั้มบ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้างสนามกีฬาระดับชาติหลายแห่ง อย่าง สนามกีฬารังสิต การปรับปรุงสนามศุภชลาสัย เป็นต้น เข้ามารับผิดชอบโครงการภายใต้งบประมาณ 329,800,000 บาท ในแผนงานระยะที่ 3 หรือ (ส่วนที่เหลือ) โดยมีแผนงานจะเข้ามาก่อสร้างซ่อมแซมและปรับปรุงในส่วนของการก่อสร้างอัฒจรรย์เพิ่มเติมอีก 2,500 ที่นั่ง การซ่อมแซมตัวอาคาร ครุภัณฑ์ พัสดุ สนามกีฬา ทั้งประเภทลู่และลานที่ใช้ในการแข่งขัน ซึ่งมีกำหนดตามข้อสัญญาการก่อสร้างไว้เป็นเวลา 820 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.2566 -27 พ.ย.2568 โดยจากการหารือร่วมกันหลายฝ่ายทำให้เกิดความมั่นใจว่าจะสามารถก่อสร้างโครงการให้เสร็จไปได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ด้วยโครงการมหากาพย์นี้เป็นโครงการที่ประชาชนให้ความสนใจ เนื่องจากถูกก่อสร้างเรื้อรังมานานกว่า 15 ปี ดังนั้นคงถึงเวลาแล้วที่โครงการจะต้องแล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดแน่นอน แต่หากพ้นสัญญาที่ระบุไว้ทางบริษัทฯผู้รับจ้างจะต้องเสียค่าปรับสูงถึงวันละ 3 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้ทางผู้รับเหมาเองก็มีความมั่นใจในการวางแผนงาน รวมถึงความชำนาญในการจัดสร้างสนามกีฬาระดับชาติอีกด้วย
นายปรเมศวร์ นายกเมืองพัทยา กล่าวต่อไปว่าในช่วงเวลาต่อจากนี้คงจะมีการเร่งรัดและติดตามการก่อสร้างรวมกับสำนักงาน ปปช.จังหวัดชลบุรี ที่จะเข้ามาช่วยในการดูแลการจัดสรรงบประมาณและการก่อสร้างเพื่อให้มีความคืบหน้าตามแผนงาน รวมทั้งมีการใช้งบประมาณอย่างโปร่งใส โดยโครงการนี้ในช่วงแรกคงจะสามารถเปิดใช้สนามกีฬาขนาด 20,000 ที่นั่งได้ตามเป้าหมาย แต่คงจะสามารถจัดการแข่งขันได้ในระดับชาติ ขณะที่แผนงานการจัดแข่งขันระดับอาเซียหรือเอเซียนั้น ได้มีการตั้งโครงการเพื่อขอจัดสรรงบประมาณอุดนุนจากรัฐบาลในการก่อสร้างสนามฝึกซ้อมและสนามอื่นๆที่วางไว้ตามแบบเดิม ทั้งสนามจักรยาน สระว่ายน้ำ หรืออาคารกรีฑาในร่ม ซึ่งจะเป็นโครงการในระยะยาวต่อไป
ขณะที่นายกิตติพงศ์ ขลิบแย้ม ผอ.สนง.ปปช.จ.ชลบุรี กล่าวว่าโครงการนี้ได้รับการร้องเรียนมาอย่างต่อเนื่องว่ามีความล่าช้าและมีการก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบแปลนที่กำหนด จึงเข้ามาร่วมตรวจสอบในเรื่องของการใช้จ่ายงบประมาณ เพราะมีการเบิกจ่ายงบประมาณเกินกว่า 100 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเพื่อ ให้โครงการสามารถเดินไปได้ด้วยความสะดวก โดยมีการใช้จ่ายงบประมาณที่คุ้มค่าและปลอดจากปัญหาทุจริตทางสำนัก ปปช.จังหวัดชลบุรี จึงร่วมกับเมืองพัทยา ในการเข้ามาติดตามโครงการนี้อย่างจริงจัง เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป…….