มท.1 แท็กทีม มท.3 สั่งการให้อธิบดีกรมการปกครอง ส่งชุด DOPA FORCE ผนึกกำลังทีมกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) กวาดล้างตลาดนัดยาเสพติด Dirty Pub Pattaya แหล่งมั่วสุมยาเสพติดครบวงจร สกปรกสมชื่อ

        กระทรวงมหาดไทยสนองนโยบายรัฐบาลโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด เร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน และปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง รวดเร็ว และเป็นรูปธรรม

      นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลดำเนินการอย่างเร่งด่วน ในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานบริการ

       นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย  ร่วมกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.พล.ต.ท.คีรีศักดิ์  ตันตินวะชัย ผบช.ปส. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

        สั่งการให้สำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน โดยร้อยตำรวจเอกเขตรัฐ ชาญศิลป์ ได้นำกำลังชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดและรักษาความสงบ (DOPA FORCE) เจ้าพนักงานร่วม 5 สำนัก จากกรมการปกครอง จำนวนกว่า 150 นาย ร่วมกับ กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด โดย พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี  และ นายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ดําเนินการตรวจสอบและ ดําเนินการหาข่าวอันเกี่ยวข้องกับการกระทําความผิดด้านยาเสพติด และการกระทำความผิดอื่น ๆ

       ปฏิบัติการตรวจค้นและจับกุมผับในพัทยาครั้งนี้  สืบเนื่องจากการสืบสวนข้อมูลสถานประกอบการและสถานบันเทิงผิดกฎหมายทั่วทั้งประเทศตามนโยบายการจัดระเบียบสังคม ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งปฏิบัติการในครั้งนี้ ชุดปฏิบัติการสืบสวนของ DOPA FORCE แฝงอยู่และเข้าทำการสืบสวนพร้อมทั้งสังเกตการณ์ ติดตามความเคลื่อนไหวเป้าหมายอยู่ร่วม 2 เดือน จากการตรวจสอบพบว่า สถานประกอบการ Dirty Patta มีการปล่อยให้นักเที่ยวใช้ยาเสพติดและมีการจำหน่ายยาเสพติดภายในร้านอย่างโจ้งแจ้ง เรียกได้ว่าสกปรกสมชื่อ ทั้งพนักงาน การ์ด และนักเที่ยว ทุกคนต่างสามารถจำหน่ายยาเสพติดได้อย่างอิสระ เสรี มั่วสุม เสพยาเสพติดทั้งภายในร้าน และภายในรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้าน หนำซ้ำยังเปิดท้ายรถยนต์จำหน่ายยาเสพติดอย่างกับตลาดนัด แถมยังเปิดให้บริการเย้ยกฎหมาย ยันเช้าเกือบทุกวัน

      สายลับชุดปฏิบัติการ DOPA FORCE เข้าสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานพิสูจน์ความผิดอีกครั้ง ในคืนวันที่ 24 พ.ค. 2567 ต่อเนื่องคืนวันที่ 25 พ.ค. 2567 เมื่อพบว่าสถานประกอบการ Dirty Pattaya  มีการกระทำผิดจริง จึงได้แจ้งไปยังชุดจับกุม ในเวลา 02.30 น. วันที่ 25 พ.ค. 2567 จึงเปิดปฏิบัติการจู่โจมจับกุมสถานบันเทิงละเมิดกฎหมายทันที เมื่อชุดจับกุมเข้าไปถึงภายในผับ นักเที่ยวจำนวนกว่า 300 คน ต่างแตกฮือ พยายามโยนยาเสพติดทิ้งลงพื้นเกลื่อน และพยายามหลบหนี แต่ชุดจับกุมได้ปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน จึงทำให้นักเที่ยวไม่สามารถหนีออกไปได้

   ชุดปฏิบัติการสืบสวน DOPA FORCE เฝ้าติดตาม จนสืบทราบผู้ค้ารายย่อย (หรือใหญ่) ซึ่งในการจับกุมครั้งนี้สามารถจับกุมผู้ค้าซึ่งเป็นผู้กระจายสินค้าได้ 2 ราย

     จากการเข้าตรวจสอบ “Dirty Pattaya”พบว่าเป็นสถานประกอบการที่เปิดทำการค้าให้ลักษณะสถานบริการ มีการค้าขายอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการแสดงดนตรี และให้นักเที่ยว ดื่มกิน เต้นรำ อย่างสนุกสนาน แต่จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการแต่อย่างใด

       ที่สำคัญสถานบริการแห่งนี้มีการปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในอาคาร ซึ่งตรวจสอบพบยาเสพติดตกกระจายเกลื่อนพื้น มีลักษณะเป็นผงสีขาว คาดว่าเป็นเคตามีน ยาอี โดยพบนักเที่ยวจำนวนกว่า 300 คน มีสารเสพติดภายในร่างกาย 118 คน

      จากนั้นได้นำตัวนักเที่ยวทั้งหมดตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นพบมีนักเที่ยวปัสสาวะสีม่วง จำนวน เป็นผู้ชาย 102 คน เป็นผู้หญิง 116 คน

      พนักงานฝ่ายปกครอง จึงได้จับกุมตัวเจ้าของร้าน ผู้ดูแล และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด ดังนี้  1. เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา และมีการปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในบริเวณสถานประกอบการ ซึ่งเป็นเหตุผลประกอบการทำคำสั่งปิดสถานประกอบการเป็นเวลา 5 ปี

          นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทย มีนโยบายในการจัดระเบียบสังคม เพื่อให้ประชาชนได้อยู่ในสังคมที่ความสงบสุขปลอดภัย การแสกนตรวจสอบสถานบริการ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายจัดระเบียบสังคม เพื่อให้ผู้ประกอบการสถานบริการ ดำเนินกิจการอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ปลอดจากยาเสพติด การจู่โจมตรวจค้นในวันนี้พบว่าสถานบันเทิง “มีกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายโดยชัดแจ้ง ทั้งการไม่มีใบอนุญาตตั้งสถานบริการ ขาย เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ เกิน เวลา ปล่อยปละละเลย ให้มีการขายและเสพยาเสพติดภายในร้าน และเปิดถึงเกือบรุ่งเช้า ถือว่าเป็นการจงใจฝ่าฝืนกฎหมายอย่างชัดแจ้ง

         จากนี้ จะให้ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ออกคำสั่งคำสั่งปิดสถานที่แห่งนี้ มีกำหนด 5 ปี ตามคำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ต่อไป