เผยข้อเท็จจริง! กรุ๊ปทัวร์จีน สร้างโบสถ์ปลอม
ตรวจวัดดังชลบุรี หลังเพจ “บิ๊กเกรียน” แฉ เปิดธุรกิจหลอกทัวร์ศูนย์เหรียญ ด้านเจ้าอาวาสแจงทุกอย่างทำตามขั้นตอนของกฎหมาย และ พ.ร.บ.สงฆ์ และก็นำรายได้ไปใช้ประโยชน์ให้เกิดแก่ชุมชน วอนสังคมฟังข้อเท็จจริง
จากกรณีเพจ “บิ๊กเกรียน” ได้โพสต์รูปภาพพร้อมเรื่องราวแฉกรุ๊ปทัวร์จีนเช่าได้พื้นที่วัดแห่งหนึ่งในจัง หวัดชลบุรี สร้างโบสถ์ปลอมเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนโดยเฉพาะ ภายในยังมีการเปิดขายพระ เครื่อง รางของขลังแพงกว่าปกติหลักหลายหมื่นบาท โดยมีการจัดคนมาจำหน่ายตั้งแผงขายธูปเทียน และพบว่ามีรถทัวร์จอดอยู่หลายคัน หน้าอาคารอยู่ตรงข้ามพระอุโบสถ์ของวัดเป็นอาคารคล้ายพระอุโบสถ์ ส่วนด้านในมีศาลาตั้งพระพรหม เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวจีนกราบไหว้ ซึ่งเงินสะพัดเข้ากระเป๋านายทุนในประเทศจีน โดยพฤติกรรมลักษณะนี้เข้าข่ายแก๊งขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญ จนทำให้ประเทศไทยได้รับความเสียหายย่อยยับ ทั้งเรื่องภาพ ลักษณ์ และรายได้เข้าประเทศ วอนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามากวดขันจับกุม ตามที่เป็นกระแสข่าวในขณะนี้
ล่าสุดวันนี้ (29 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวจากหลายสำนักได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบวัดที่เป็นกระแสข่าว ซึ่งพบ ว่าเป็น วัดเขาไม้แก้ว ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีตัวแทนจากสำนักพระพุทธศาสนา สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ตำรวจ ตม.พัทยา ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง และ สภ.ห้วยใหญ่ เข้าร่วมตรวจสอบ โดยพบ พระครูสุนทรรัตาภิรม เจ้าอาวาส พร้อมด้วยไวยาวัจกร คณะกรรมการวัด และตัวแทนบริษัทนำเที่ยวที่มาขอเช่าพื้นที่ภายในวัด รอให้ตรวจสอบและอธิบายถึงกรณีที่เกิดขึ้น
พระครูสุนทรรัตนาภิรม แจ้งว่าทางวัดไม่คิดว่ากรณีดังกล่าวจะมีปัญหา เพราะทุกอย่างก็ทำตามขั้น ตอน เนื่องจากวัดค่อนข้างห่างไกล ทำให้วัดมีรายได้ไม่พอใช้จ่าย และการแบ่งพื้นที่บางส่วนให้บริษัทเอกชนมาเช่าก็ได้ขออนุญาตจากทางสำนักงานพระพุทธศาสนาเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่ได้ติดขัดอะไรเพราะดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่าง โดยบริษัทแห่งนี้มาขอเช่าพื้นที่บริเวณพื้นที่ว่างประมาณ 1 ไร่ ด้านลานจอดรถด้านนอกเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมานี่เอง ในพื้นที่โดยรวมของวัดประมาณ 40 ไร่ เพื่อรับทัวร์นักท่องเที่ยวจีนซึ่งพากันเข้ามากราบไหว้พระและเยี่ยมชมศาสนาสถานวันนึงประมาณ 20-30 คัน โดยจะเสียค่าเช่าเดือนละ 3 หมื่นบาท ซึ่งทางวัดก็จัดทำบัญชีโดยละเอียดเพื่อแจ้งให้ทางสำนักพุทธฯทราบเป็นประจำทุกเดือน ส่วนที่กล่าวหาว่ามีการสร้างโบสถ์ขึ้นอีก 1 หลังเพื่อใช้รองรับนักท่อง เที่ยวนั้นคงเป็นเรื่องของความคลาดเคลื่อน เพราะโบสถ์แห่งนี้จริงๆคือศาลาการเปรียญที่พระใช้ทำพิธีทางสงฆ์ในวันสำคัญทางพุทธศาสนาหรือวันพระที่ชาวบ้านจะมาทำบุญ และก็สร้างตั้งแต่ปี 2553 หรือกว่า 10 ปี และราคาก่อสร้างก็นับสิบล้านบาทจะมาสร้างเพื่อรับนักท่องเที่ยวจีนคงไม่ใช่คำ ตอบที่ถูกต้องนัก ส่วนพระพรหม หรือองค์พระปฐมก็สร้างมาแต่เดิมอยู่แล้ว จะมีเพียงทางวัดจัดให้จัดชาวบ้านโดยจ้างให้มาจำหน่ายดอกไม้ ธูปเทียนให้แก่นักท่องเที่ยวเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นเป็นเรื่องของบริษัท ซึ่งก็ได้กำชับว่าให้ทำอย่างถูกต้องและไม่รบ กวนชาวบ้าน ที่สำคัญการเข้ามาของบริษัทก็ทำให้วัดมีรายได้เพิ่มขึ้นเพื่อนำไปทำนุงบำรุงศาสนา เช่น สร้างกุฏิ อาคาร ค่าใช้จ่ายในวัด รวมทั้งการให้ทุนการศึกษาเด็กในโรงเรียนของวัดทั้ง 3 แห่ง การทำกฐิน ผ้าป่า การสร้างอาชีพให้ชาวบ้านโดยการนำสินค้าโอทอปมาจำหน่าย การปลูกบ้านให้คนจน และการตั้งมูลนิธิสังฆาประชานุเคราะห์เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว ส่วนพระเครื่องที่บอกว่าจำหน่ายในราคาแพงนั้นก็ได้กำชับให้ดำเนินการอย่างเป็นธรรม ส่วนเรื่องราคาไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่พระทุกองค์ทางวัดก็ทำพิธีพุทธาภิเษกให้เพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนจะแพงหรือถูกคงแล้วแต่ความพอใจของผู้ซื้อ เพราะไม่ได้มีการบัง คับขาย อีกอย่างพระมีทั้งทำจากเงิน ทองแดง และทองคำ ราคาก็แตกต่างกัน ดังนั้นการลงข่าวเช่นนี้ทำให้วัดเสียหายและไม่ถูกต้อง จึงอยากให้มารับฟังข้อเท็จจริงด้วย
ด้านนายเดชา ก่อเกิด ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่าตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์วัดก็มีสิทธิ์ดำเนินการได้ แต่ต้องขออนุญาตอย่างถูกต้องว่ามีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร จากนั้นก็ทำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะสงฆ์ รายงานเจ้าคณะอำเภอ จังหวัด และนำเข้าสำนักพุทธฯ เพื่อเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดในการขออนุญาต ซึ่งทางวัดก็ทำอย่างถูกต้อง และก็มีการส่งรายงานบัญชีแก่สำนักพุทธฯ เป็นประจำทุกเดือน ตอนนี้เหลือเพียงการจัดทำผังพื้นที่ที่นำไปให้เช่าประโยชน์เพื่อประกอบในการขออนุญาตเท่านั้น ซึ่งจากการตรวจสอบก็ไม่พบความผิดอะไร แต่แทนที่จะเสียหายน่าจะเป็นเรื่องดีที่พานักท่องเที่ยวเข้าชมเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่ชาวต่างชาติ เพียงแต่ทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบที่เหมาะสม ไม่เอารัดเอาเปรียบ หรือหลอกขายสินค้าในราคาแพง ซึ่งกรณีนี้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ต้องดูแล โดยถ้าพบความผิดหรือทำให้วัดเสีย หายก็ให้ยกเลิกไปเท่านั้น แต่นี่เป็นเพียงการพานักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม ไหว้พระ ทำบุญ และก็ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไร
ขณะที่ตัวแทน บริษัทเอกชน ผู้เช่าเปิดเผยว่าการกิจการนี้ไม่ได้หลอกลวงนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด เป็นเพียงการนำนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมศาสนสถาน และกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิมิมงคลเท่านั้นของวัดเท่านั้น โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนที่ชื่นชอบในพระพุทธศาสนา ส่วนจะทำบุญ หรือซื้อพระเครื่องหรือไม่ทางเราก็ไม่ได้บังคับ และทุกองค์ก็มีราคาติดแจ้งไว้อย่างถูกต้อง โดยกิจการนี้เพิ่งเปิดมาไม่นานมีพนักงานประมาณ 10 กว่าคนเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุเป็นข่าวทางเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาตรวจสอบและคุมตัวพนักงานบางส่วนไปแล้ว เพราะยังไม่มีใบอนุญาตทำงานในราอาณาจักรอย่างถูกต้อง ซึ่งทางบริษัทก็ไม่ขัดข้อง แต่ที่ไม่ได้จัดทำให้ก็เพราะค่าใช้จ่ายในการขออนุญาตสูงกว่าแสนบาทต่อราย จึงอยากให้พนักงานที่มีความตั้งใจและอยู่กับบริษัทไปตลอด ไม่ใช่พอทำให้ก็ออกไปหางานทำข้างนอกทำให้บริษัทเสียค่าใช้จ่ายฟรีเท่านั้น….