“วิระชัย” นำทีมตรวจโกดัง-สกัดจับขนขยะสารพิษกว่า 100 ตัน
รอง ผบ.ตร.นำกำลังตรวจโกดัง สกัดจับรถขนขยะพิษ 10 ตู้คอนเทนเนอร์น้ำหนักนับร้อยตัน เตรียมซุกก่อนส่งกำจัด
(26 มิ.ย.) ที่ผ่านมา พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ สภ.บ่อวิน เทศบาลตำบลเขาไม้แก้ว สาธารณสุข อุตสาหกรรมจังหวัด และฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ตรวจสอบภายในโกดังเก็บของเก่า “รชานนท์ของเก่า” ตั้งอยู่พื้น ที่หมู่ที่ 3 ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับการประสานจากชุมชนในพื้นที่ว่าปัจจุบันพบว่าที่โกดังแห่งนี้มีรถบรรทุกขนถ่ายวัตถุบางอย่าง ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นการนำขยะพิษซึ่งเป็นกากใยจากโรงงานอุตสาหกรรมหนักมาเก็บไว้ในพื้นที่ที่อาจสร้างปัญหามลพิษในชุมชนขึ้นได้
ทั้งนี้ จากการเข้าตรวจสอบพบขยะพิษลักษณะเป็นกากใยซึ่งเป็นเศษเหล็กจากโรงงานถลุงเหล็กบรรจุอยู่ในถุงผ้าขนาดใหญ่ถูกเก็บไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ภายในโกดังดังกล่าวอย่างมิดชิด สอบสวนพบว่ามี นางสุดาวดี เปลอะมาก รับเป็นเจ้าของโกดัง และ นายสิทธิพันธ์ ศรีสมบูรณ์ รับเป็นเจ้าของสินค้า ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารที่นำมาแสดงพบว่าเป็นสินค้าที่ประมูลมาจากท่าเรือคลองเตย กทม. แต่หลักฐานการสำแดงแจ้งว่าจะนำมาเก็บที่ทุ่งศุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงถือเป็นการนำวัตถุอันตรายมาเก็บผิดที่ที่แจ้งไว้ จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันครอบครองวัตถุอันตราย และเก็บวัตถุอันตรายในสถานที่ที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีโทษตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตรวจพบอีกพบรถบรรทุกคอนเทนเนอร์จำนวน 7 คัน บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 14 ตู้ จอดพักคอยเพื่อนำขยะอันตรายส่งมากักเก็บข้างถนนสาย 331 ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบพนักงานขับรถต่างพากันวิ่งหลบหนีจึงติดตามไปจับกุมตัวไว้ได้ ขณะที่การตรวจสอบในรถพบขยะอันตายลักษณะเป็นฝุ่นผงของเสียจากการถลุงเหล็ก จึงควบคุมตัวและยึดของกลางไว้ดำเนินคดี
พล.ต.อ.วิระชัย รอง ผบ.ตร.เปิดเผยว่าต้องขอบคุณชุมชนที่ห่วงใยท้องถิ่นเมื่อพบเบาะแสก็แจ้งให้ภาครัฐได้ทราบและลงตรวจสอบจนพบการกระทำผิดก่อนเกิดความเสียหาย สำหรับขยะเหล่านี้คาดว่าเป็นฝุ่นของเสียที่เกิดจากการถลุงเหล็กในโรงงานอุตสาหกรรมหนัก ซึ่งจะมีสารพิษหลายอย่างเจือปน อาทิ ลิเทียม เลิลเรียม ตะกั่ว แคดเมียม สังกะสี ซึ่งหากเก็บสะสมไว้อย่างไม่ถูกวิธีก่อนกำจัดก็อาจสร้างผลเสียกับชุมชนได้ ขณะ ที่จากการตรวจสอบพบว่าขยะเหล่านี้ทางผู้ประกอบการไปประมูลมาจากท่าเรือคลองเตยจำนวน 6,000 ตัน เพื่อขนมาเก็บที่โกดัง ก่อนส่งไปยังท่าเรือแหลมฉบังเพื่อส่งออก ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวพบว่าไม่มีใบอนุญาตขนส่งและการกักเก็บที่ถูกต้อง ซึ่งจะได้ใช้มาตรการทางกฎหมายเข้ามาดำเนินการต่อไป…