ค่ายมวยทัพพระยายิม วอน อย่าเอาค่ายมวยเข้าไปเกี่ยวข้อง คดีจ่อยิงโจ๋ ดับสยองหน้าผับระนอง

รองหัวหน้าค่ายมวยทัพพระยายิมวอนอย่าเอาค่ายมวยเข้าไปเกี่ยว

กรณี “เป้ ทัพพระยา” ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงนายเทพฤทธิ์ แซ่อ๋อง หรือ “แจ๊ค สะพานยูง” อายุ 35 ปี เสียชีวิตที่บริเวณหน้าสถานบันเทิง “ซีดผับ” ตรงข้ามที่ว่าการอำเภอเมืองระนอง หลังเก่า ถ.เรืองราษฏร์ ต.เขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนอง สาเหตุเพราะก่อนเกิดเหตุ “เป้ ทัพพระยายิม” กับพวก ขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ยารีส สีดำ และรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว สี่ประตู ไปจอดที่หน้าผับแล้วเปิดเพลงจากเครื่องเสียงรถยนต์ส่งเสียงดังจนชาวบ้านรำคาญ

ต่อมาผู้ดูแลผับเข้าไปตักเตือน แต่กลุ่มผู้ต้องหากลับหยิบปืนออกมายิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่ 3-4 นัด ซ้ำยังปรี่เข้ามาจะจ่อยิงนายสุพจน์ วานิชพัฒน์ หรือ “โกจ้าว” ที่พยายามบอกว่าไม่เกี่ยวข้อง กระทั่งนายเทพฤทธิ์ แซ่อ๋อง อายุ 35 ปี เข้ามาห้ามเลยถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งภายหลังมีผู้นำคลิปจากกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์ ขณะเกิดเหตุเผยแพร่จนกลายเป็นข่าวดังครึกโครมตามที่สื่อหลายสำนักได้รายงานไปแล้วนั้น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าไปเกี่ยวกับค่ายมวยทัพพระยายิมที่ตั้งอยู่ในเมืองพัทยา

ล่าสุดผู้สื่อข่าว ข่าวเด็ดออนไลน์ เดินทางไปที่ค่ายมวย “ทัพพระยายิม” ตั้งอยู่บริเวณ หน้าทางเข้าสวนช้างไทยทอง ปากซอย 17 ถนนเทพประสิทธิ์ ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งตามข่าวระบุว่าเป็นค่ายมวยที่ เป้ ทัพพระยา พร้อมกลุ่มนักมวยที่ก่อเหตุ

ซึ่งได้พบกับนายณัฐพล ยกเจริญ อายุ 37 ปี รองหัวหน้าค่ายมวย และได้รับการเปิดเผยว่า ค่ายมวยแห่งนี้เพิ่งเปิดดำเนินกิจการมาได้เพียง 3 เดือน โดยก่อนหน้านี้ เป้ ทัพพระยา เป็นลูกน้องเก่าของเจ้าของค่ายมวย ซึ่งอดีตเคยเทรนเนอร์นักมวยในค่าย ซึ่งมายืมรถกระบะ 4 ประตูซึ่งเป็นของตนเองเพื่อขับเดินทางกลับไปทำธุระที่บ้านเกิดในจังหวัดระนองได้ประมาณ 1 เดือน ซึ่งตนเองมีรถหลายคันและเห็นว่าเป็นลูกน้องหัวหน้าค่ายจึงให้ยืมใช้

นายณัฐพล กล่าวอีกว่า ตามข่าวที่ว่าเป้ พานักมวยในค่ายไปชกมวยนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ส่วนเสื้อที่กลุ่มผู้ก่อเหตุใส่ ก็เป็นเสื้อที่หาซื้อได้ทั่วไป เนื่องจากปกติทางค่ายก็ส่งเสื้อไปขายตามจังหวัดในแถบภาคใต้อยู่แล้ว ซึ่งล่าสุดก็ส่งไปขายที่หาดใหญ่ และระนอง จึงขอชี้แจงว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับค่ายมวยแห่งนี้แต่อย่างใด หลังจากเรื่องนี้เป็นข่าวออกไปทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ค ที่พากันรุมประณามและด่าทอจนค่ายทัพพระยายิมเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก

ทุกวันนี้นักมวยในค่ายที่มีอยู่เพียง 3-4 คนไม่เป็นอันซ้อมมวย ทั้งๆ ที่มีกำหนดจะขึ้นชกเร็วๆนี้ เพราะวิตกกังวลที่ค่ายที่ตัวเองสังกัด ถูกโลกโซเชียลด่ายับเยิน ทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามหาก เป้ ดูข่าวอยู่ก็อยากให้เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจแต่โดยดี และช่วยนำรถปิคอัพของตนที่ยืมไปมาคืนด้วย

นอกจากนั้นนายณัฐพลยังกล่าวอีกว่า ในโลกโซเซียลยังนำรูปตนและกลุ่มเพื่อนไปลงทำนองว่าตนเองเป็นคนยิง และกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มก่อเหตุในวันนั้น ซึ่งตนเองแสดงความบริสุทธิ์ใจและไปตอบโต้ใดๆทั้งสิ้น นายณัฐพลกล่าวปิดท้าย