จังหวัดชลบุรี เมืองพัทยา และทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกัน มอบโฉนดที่ดินแก่วัด และ แจกจ่ายน้ำจืดแก้ไขภัยแล้ง
วันนี้ (13 มี.ค.) ที่เกาะล้าน จ.ชลบุรี นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้เป็นประธานโครงการมอบโฉนดที่ดินแก่วัด วันสถาปนากรมที่ดิน 119 ปี และโครงการการแจกจ่ายน้ำจืดสำหรับอุปโภคบริโภคเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ว โดยมีพลเรือตรีภิญโญ โตเลี้ยง รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1, นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา, นายนริศ นิรามัยวงศ์ ปลัดจังหวัดชลบุรี, นายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง, นายสุธรรม เพ็ชรเกตุ รักษาราชการแทนปลัดเมืองพัทยา, นายกิตติพงศ์ ผลประยูร เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี, พระครูพิพิธกิจจารักษ์ เจ้าคณะอำเภอบางละมุง เจ้าอาวาสวัดหนองปรือ, พระมหาวีรยุทธ วุฑฒิธัมโม เจ้าอาวาสวัดใหม่สำราญ เกาะล้าน และประชาชน ร่วมพิธีในครั้งนี้จำนวนมาก จากนั้นได้มีพิธีทางสงฆ์เจริญพุทธมนต์ถวายเครื่องไทยธรรม เพื่อความเป็นศิริมงคล
วัดใหม่สำราญ หรือที่ประชาชนทั่วไปนิยมเรียกชื่อกันว่า วัดเกาะล้าน ตั้งอยู่ที่บ้านเก้าล้าน หมู่ที่ 7 ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย วัดใหม่สำราญ ได้รับอนุญาตให้ตั้ง เมื่อปีพุทธศักราช 2465 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปีพุทธศักราช 2473 ปัจจุบันมีพระมหาวีระยุทธ วุฒิธัมโม เป็นเจ้าอาวาส
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 วัดใหม่สำราญ โดยผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดชลบุรี ได้ยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งวัด โดยสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาบางละมุง ได้ทำการรังวัดปรากฏผลการรังวัดได้เนื้อที่ จำนวน 11 ไร่ 1 งาน 96.4 ตารางวา และได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ปรากฏว่าที่ดินของวัดอยู่ในหลักเกณฑ์ ที่จะออกโฉนดที่ดินได้ ตามมาตรา 59 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน แม้วัดใหม่สำราญจะไม่ได้แจ้งการครอบครองก็ไม่มีผลทำให้วัดต้องเสียไป ซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินของวัดตามนัยพระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ประกอบกับมติที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาปัญหาข้อกฎหมายของกรมที่ดิน
เมื่อการประชุมครั้งที่ 5/2543 ปี พ.ศ.2543 ได้มีแนวทางปฏิบัติกรณี วัดแหลมพ้อ (เกาะยอ) ขอออกโฉนดที่ดินแล้ว การที่วัดใหม่สำราญขอรังวัดออกโฉนดที่ดินจึงไม่อยู่ในบังคับของกฎกระทรวงฉบับที่ 43 (พ.ศ.2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาบางละมุง จึงได้ลงนามโฉนดที่ดิน เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563
นอกจากนี้ปัญหาภัยแล้ง เป็นวาระเร่งด่วนระดับชาติอีกวาระหนึ่งของรัฐบาลกระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งให้กรมส่งเสริมการปรกครองส่วนท้องถิ่น ออกหนังสือเวียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารภัยจังหวัดทุกจังหวัด ปรับแผนเผชิญเหตุภัยแล้งทั้งในภาพรวมและเฉพาะที่อาจจะเกิดขึ้นให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งประชาชนบ้านเกาะล้านได้รับผลกระทบจากสภาวะฝนทิ้งช่วง และระบบประปาบนเกาะล้านมีปริมาณยังไม่เพียงพอในการบริการประชาชน นักท่องเที่ยว ชุมชนเกาะล้าน ทำให้เกิดสถานการณ์ขาดแคลนน้ำจืด เพื่อการอุปโภค บริโภค นายบุญเชิญ บุญยิ่ง ประธานชุมชนบ้านเกาะล้าน ซึ่งเป็นตัวแทนประชาชน จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือมายังนายกเมืองพัทยา จึงได้ประสานความร่วมมือมายังทัพเรือภาคที่ ๑ ซึ่งทางรัฐบาลมอบหมายภารกิจ เป็นหน่วยสนับสนุนให้ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ โดยบูรณาการหน่วยปฏิบัติการ จากทั้งฝ่ายพลเรือน หน่วยทหาร ตลอดจนภาคเอกชน เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำโ โดยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหากรณีน้ำเพอการอุปโภคบริโภคของประชาชนเป็นอันดับแรก พร้อมทั้งกำหนดแบ่งพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบเพื่อขอรับความช่วยเหลือและแก้ปัญหาภัยแล้งให้กับประชาชน
犀利士 com/wp-content/uploads/2020/03/1584105031737.jpg”>
และขณะเดียวกัน เมืองพัทยา ได้ดำเนินจัดทำแผนพัฒนาเมืองพัทยา ในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนในเรื่องของการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำสำหรับอุปโภค บริโภครวมทั้งน้ำสำหรับใช้ในการบรรเทาสาธารณภัย ให้กับประชาชนบ้านเกาะล้าน โดยจัดให้มีการทบทวนโครงการวางท่อน้ำประปาไปยังเกาะล้าน โครงการผลิตน้ำประปาจากน้ำทะเล โครงการปรับปรุงบ่อน้ำด้วยการปูแผ่น HPDE รองพื้นกันซึม กันรั่ว เพื่อสำรองน้ำใช้สำหรับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สามารถบรรจุน้ำได้ปริมาตรไม่น้อยกว่า 50,000 ลิตร
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เมืองพัทยา ได้รับความช่วยเหลือจากทางทัพเรือภาคที่ 1 ในภารกิจการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในเรื่องของการขาดแคลนสำหรับอุปโภค บริโภค จึงขอขอบพระคุณทัพเรือภาคที่ 1 โดยพลเรือตรีภิญโญ โตเลี้ยง รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ที่ให้ให้ความช่วยเหลือส่งมอบน้ำจืด จำนวน 50,000 ลิตร โดยเรือหลวงทองแก้วให้กับประชาชนบ้านเกาะลาน จำนวนประชากร 2,925 คน ไม่รวมประชากรแฝง ที่ได้รับผลกระทบปัญหาด้านภัยแล้ง
นอกจากนี้ยังมีการมอบเกียรติบัตร ”อาหารสะอาด รสชาติอร่อย” แก่ผู้ประกอบการร้านอาหาร จำนวน 111 ราย…..