เมืองพัทยาลุยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำคลองสาธารณะประโยชน์หลังครบกำหนดผ่อนผัน เจ้าของอาคารเจรจาขอเวลา 2 สัปดาห์ขนย้ายก่อนรื้อจริง
เมืองพัทยาลุยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำคลองสาธารณะประโยชน์หลังครบกำหนดผ่อนผัน เจ้าของอาคารเจรจาขอเวลา 2 สัปดาห์ขนย้ายก่อนรื้อจริง
นโยบายในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดิน และลำคลองสาธารณะของเมืองพัทยายังคงดำเนินงานเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่พบว่าในอดีตที่ผ่านมากรณีดังกล่าวมีปัญหาและส่งผลกระทบต่อที่ดินสาธารณะประ โยชน์ รวมทั้งยังสร้างส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ เนื่องจากมีการตรวจพบอาคารจำนวนมากที่ปลูกสร้างรุกล้ำไปในที่ดินและลำคลองสาธารณะหลัก ทั้งคลองพัทยาใต้ ปึกพลับ และนกยาง โดยหลังจากการประสานงานร่วมกับสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี นำโดยนายวิเชียร พงษ์พานิช รองนายกเมืองพัทยา ได้ทำการออกสำรวจ รังวัด พร้อมปิดหมายประกาศตามอำนาจปกครองเพื่อให้มีการรื้อถอนและแก้ไขปัญหาเหล่านี้มาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด (13 ก.ย. ) นายวิเชียร พงษ์พานิช รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักการช่างเมืองพัทยา นำพนักงานส่วนที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในการรื้อถอนอาคาร (บางส่วน) หลังแจ้งหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารแบบ ค.7 ในคำสั่งให้รื้อถอนอาคารตามมาตรา 42 (วรรคหนึ่ง) กรณีก่อสร้าง ดัดแปลงหรือเคลื่อนย้ายอาคารกระทำการโดยไม่ได้รับใบอนุญาต พร้อมปิดป้ายประกาศของเมืองพัทยาระบุวันที่ 27 เมษายน 2561 เพื่อให้เจ้าของอาคารแบบ ค.ส.ล.2 ชั้น เลขที่ 269/2 หมู่ 5 ถนนคลองปึกพลับ นาเกลือ ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ขนาดประมาณ 08.00 x 10.00 เมตรจำนวนหนึ่งหลัง ทำการรื้อถอนภายในระยะเวลา 15 วัน หลังตรวจพบว่ามีการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตและบุกรุกคลองสาธารณะ โดยมีนายสมชาย บำรุงศักดิ์ หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคาร นายธิปชัย รัตนวีรถาวร หัวหน้าฝ่ายดูแลรักษาและคุ้มครองที่สาธารณะ นายมารุต อุทัยวัฒนานนท์ นายตรวจเขต เจ้าหน้าที่ กลุ่มกฎหมาย สำนักการช่าง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ครั้งนี้
นายวิเชียร พงษ์พานิช รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่าอาคารดังกล่าวตรวจพบว่ามีการก่อสร้างโดยไม่ ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นและบุกรุกคลองสาธารณะประโยชน์ จึงได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางปกครอง ได้แก่การแจ้งเพื่อทราบ การปิดหมายระงับการใช้อาคาร คำสั่งให้รื้อถอน และการปิดประกาศเพื่อให้เจ้าของอาคารรื้อถอนและขนย้ายวัสดุ สิ่งของในระยะเวลา 15 วันตามที่กฎหมายกำหนดตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ด้วยเจ้าของอาคารยื่นเรื่องอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาระดับจังหวัดจึงต้องรอผลความเห็นชอบ กระทั่งคณะกรรมได้พิจารณาเห็นว่าเป็นความผิดและยกคำอุทธรณ์ เมืองพัทยาจึงได้เตรียมเข้ามาดำเนินการรื้อถอนตามขั้นตอน แต่ด้วยทางเจ้าของอาคารได้เจรจาต่อรองในเรื่องของเวลาเพื่อทำการขนย้ายวัสดุสิ่งของและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆออกจากพื้นที่ ภายใน 2 สัปดาห์จึงได้ทำข้อตกลงไว้ แต่หากถึงกำหนดแล้วยังไม่ดำเนินการใดๆเมืองพัทยาก็จะเข้าดำเนินการรื้อถอนอาคารดังกล่าวเองต่อไป ซึ่งยืนยันว่าจะดำเนินการด้วยความเที่ยงตรงเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวให้หมดไป ในขณะที่อาคารอื่นๆนั้นปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนของการรอระยะเวลา และการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาคำอุทธรณ์ จากนั้นจึงจะเข้ามาจัดการทั้งระบบเพื่อให้คลองสาธารณะมีความกว้างขวางและใช้ประโยชน์ในการระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากพบว่าตามแนวคลองปึกพลับแห่งนี้มีปัญหาการบุกรุกเป็นจำนวนมากและเป็นปัญหาเรื้อรังมานานแล้ว…..