วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 19, 2024
ข่าวด่วนชลบุรีพัทยาสังคมสัตหีบ

ปกป้องวิชาชีพสื่อ! นักข่าวพัทยาแสดงเจตนารมณ์คนทำงานสื่อ พร้อมพูดคุยรองนายกเมืองพัทยาหลังมีกระแสดราม่าโรงพยาบาลเมืองพัทยา

ปกป้องวิชาชีพสื่อ! นักข่าวพัทยาแสดงเจตนารมณ์คนทำงานสื่อ พร้อมพูดคุยรองนายกเมืองพัทยาหลังมีกระแสดราม่าโรงพยาบาลเมืองพัทยา แสดงจุดยืนการทำงานเพื่อสังคม บอกต้นเหตุไม่ใช่สื่อมวลชนที่ทำงานจริงจัง วอนสังคมเข้าใจการทำงาน ด้าน รพ.รับอาจสื่อสารไม่เข้าใจกัน พร้อมเพิ่มมาตรฐานการประสานงานประชาชนที่มาใช้บริการ

จากกรณีมีดรามาสังคมออนไลน์ในเรื่องของผู้ไปใช้บริการเมืองพัทยาซึ่งอ้างว่าเป็นสื่อใหญ่ไปโวยวายกับเจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลเมืองพัทยา หลังเข้าพาบุตรหลานเข้ารักษาพยาบาลแล้วไม่ได้รับการตอบรับ จนนำมาสู่เรื่องราวดราม่าของสังคมเมืองพัทยา

 

จากนั้น ทาง นพ.กิตติ ปรมัตผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมืองพัทยา ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า

บันทึกเรื่องโรงพยาบาล ผมมารับงานช่วยดูแล รพ. เมืองพัทยาและ รพ.สาขาที่เกาะล้านได้เกือบเดือนแล้วครับ ที่ผ่านมามีกัลยาณมิตรผู้หวังดีได้เตือนว่า อายุท่านก็มากแล้ว ควรวางมือพักผ่อน ดูแลมารดาที่เจ็บป่วย เล่นหมากรุก และเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน จึงน่าจะเป็นหนทางที่ชอบที่ควรกว่า

แต่ด้วยความทะนงตน ความถือมั่นในตัวตนอย่างล้นเหลือ ทำให้ผมยังคงมั่นใจและคาดหวังว่าจะทำงานชิ้นนี้ให้เกิดผลสำเร็จ และทำให้ รพ.ทั้ง 2 แห่งนี้เป็นที่พึ่งแก่ชาวพัทยาและผู้คนนานาชาติที่มาพักอาศัยในเมืองแห่งนี้ได้อย่างมีคุณภาพ

แต่มาในวันนี้ ความมั่นใจเช่นนั้น ก็เริ่มรู้สึกคลอนแคลน ผมได้ประสบพบเจอด้วยตนเอง ผมได้ผ่านการดูแล รพ.มาหลายแห่ง ไม่เคยมีการคุกคามข่มขู่แพทย์อย่างหนักหน่วงเช่นนี้มาก่อน ผมจะยกกรณีให้ท่านอ่านดังนี้

เมื่อคืนมีผู้ป่วยเด็กมาพบแพทย์รายหนึ่ง ขณะนั้นเวลา 04.03 นาฬิกา คุณหมอที่ทำหน้าที่ตรวจท่านนั้นเป็นข้าราชการสังกัดโรงพยาบาลในจังหวัดชลบุรี ท่านกรุณามาช่วยอยู่เวรให้เพราะ รพ.เราไปเชื้อเชิญท่านมาช่วย ในขณะนั้นมีผู้ป่วยอุบัติเหตุบาดเจ็บทางสมองและและผู้ป่วยแพ้ยาไกล้ช็อก นอนรออยู่ในห้องฉุกเฉิน 7 ราย

ผู้ป่วยเด็กรายดังกล่าวมีอาการเพียงแค่อาเจียร เพราะรับประทานไส้กรอกมาเมื่อเย็น พยาบาลวัดไข้และตรวจสัญญาณชีพแล้วพบว่าปกติ เดินมาชั่งนำหนักได้ ค่า O2 SAT 99 % ซึ่งก็แปลว่ามิได้มีอาการขาดอ็อกซิเจนแต่ประการใด คุณหมอผู้ตรวจแจ้งให้รอสักครู่เพื่อทำการรักษาผู้ป่วยหนักก่อน แต่ญาติผู้ป่วยไม่ยอมฟังเสียง ชี้หน้าด่าหมอว่าจะต้องรอให้ตายเสียก่อนค่อยรักษาใช่หรือไม่

เมื่อพนักงานรักษาความปลอดภัยได้ยินเสียงเอะอะในห้องฉุกเฉินก็เข้ามาขอร้องว่าให้หยุดการถ่ายภาพ นักข่าวผู้นั้นก็ชี้หน้าพยาบาลในห้องฉุกเฉินว่า เรื่อง ปฏิเสธการรักษา ไล่คนไข้ออกจากโรงพยาบาล เห็นคนจนใช้บัตร 30 บาทใช่ไหม แล้วพรุ่งนี้จะได้เห็นดีกัน ว่าแล้วพวกเขาก็ออกจากห้องฉุกเฉินไปโดยไม่ยอมให้หมอตรวจ

วันรุ่งขึ้นนักข่าวโทรศัพท์ให้หัวหน้าพยาบาลมาพบที่สำนักงานข่าวด้วยตนเองก่อนเวลา 15.00 เพื่อรับข้อร้องเรียนด้วยเอกสาร มิฉะนั้นจะไม่รับประกันว่าจะทำให้ รพ เมืองพัทยาเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือไม่

เมื่อหัวหน้าพยาบาลไปพบเพื่อรับข้อร้องเรียนตามหน้าที่ เขาก็ถือโอกาสถ่ายวิดีโอภาพหัวหน้าพยาบาลท่านนั้นลง FB Live สด แล้วกล่าวหา รพ. อย่างสาดเสียเทเสีย ที่รับไม่ได้อย่างที่สุดคือเรื่องที่กล่าวหาว่า รพ.เมืองพัทยา ทอดทิ้งผู้ป่วยยากจน และปฏิเสธการรักษา มีชาวบ้านไม่ทราบเรื่องด้วยความเข้าใจผิดมาผสมโรงรุมด่า รพ. เมืองพัทยา เป็นจำนวนมาก เช่นคำว่า ชาติชั่ พวกเนรคุณ หนักแผ่นดิน เป็นต้น

แต่ในขณะที่ รพ.ขนาดจิ๋ว แห่งนี้มีผู้มารับบริการถึงวันละ ‭950-1100‬ คนต่อวัน และเพิ่มขึ้นทุกเดือนๆละ ประมาณ2% ท่ามกลางงบประมาณที่มีอยู่จำกัด มีแพทย์และพยาบาลน้อยกว่า รพ. สังกัดกระทรวงสาธารณสุขหลายเท่า พวกเราก็ไม่เคยย่อท้อ คงมุ่งมั่นที่จะรับใช้พี่น้องประชาชาชนอย่างเต็มกำลัง เมื่อมามาเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ผมอาจต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเพื่อให้คนทำงานของเรา ยังคงเดินหน้าต่อไปได้

ท่านผู้เจริญทั้งหลาย โปรดพิจารณาเรื่องราวเหล่านี้ด้วยใจเป็นธรรม เหตุการณ์ที่ผมเขียนมาทั้งหมดนี้เป็นแค่เศษเสี้ยวเล็กๆที่แสดงให้เห็นความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในสังคมของเรา บรรดาผู้คนที่ขาดเมตตาธรรมเอาแต่ความพอใจส่วนตัวแล้วมาทำร้ายผู้อื่น

หากท่านเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ที่จะตีแผ่เผยแพร่ความทุกข์ยากลำบากที่บรรดาแพทย์พยาบาลและบุคคลากรทางสาธารณสุขต่างๆที่ต้องทนรับอยู่ ก็จะเป็นกุศลผลบุญยิ่งนัก ดังเรื่องจริงที่ผมได้ประสบมาข้างต้น อย่างน้อยก็ให้ผู้คนที่กล่าวร้ายพวกเราอย่างไม่จำแนกและไม่เลือกหน้า ได้เกิดความเห็นอกเห็นใจบ้างว่า คนดีๆก็ย่อมมีอยู่ในทุกวงการ ขอขอบคุณ

ล่าสุด วันนี้ (22 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมืองพัทยา โดย นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ รองนายกเมืองพัทยา ซึ่งมีหน้าที่รับผิดดูแลงานสาธารณสุข ได้มีการประชุมคณะผู้บริหารโรงพยาบาลพัทยา เพื่อพูดคุยถึงเรื่องราวดังกล่าว ถึงที่มาที่ไป ซึ่งทางโรงพยาบาลเมืองพัทยาได้ชี้แจงการทำงานตามขั้นตอนของกระบวนการแพทย์ พร้อมยอมรับถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยชี้แจงว่าอาจจะเป็นเรื่องของการสื่อสารที่ไม่เข้าใจจนเกิดเรื่องราวดังกล่าวในที่สุด

นายปรเมศวร์ รองนายกเมืองพัทยา เผยว่าตามที่ได้เกิดกระแสดรามาดังกล่าว ทางโรงพยาบาลเองก็ได้ชี้แจงการทำงานให้กับคณะผู้บริหารเมืองพัทยาได้รับทราบ ซึ่งเราก็เข้าใจต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เนื่องจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจระหว่างบุคคลากรของโรงพยาบาลผู้มาใช้บริการ ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดให้เรื่องราวบานปลาย และพร้อมจะเน้นในเรื่องของการสื่อสารสร้างความเข้าใจระหว่างบุคคลากรและผู้ใช้บริการโรงพยาบาลต่อไป

มีรายงานด้วยว่า คณะกลุ่มผู้สื่อข่าวเมืองพัทยาที่ปฏิบัติงานสื่อสารมวลชนอย่างแท้จริงได้รวมตัวกันเพื่อติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้ เพราะสังคมมองภาพพจน์นักข่าวไปในทางที่ไม่ดี ทั้งที่นักข่าวพัทยาก็มีการรวมกลุ่มกันเพื่อทำงานให้สังคมอยู่โดยตลอด โดยทางตัวแทนสมาคมนักข่าวพัทยา ได้ชี้แจงว่า

กรณีที่เกิดขึ้นนั้นขอยืนยันว่านักข่าวคนดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางสมาคมแต่อย่างใด เนื่องด้วยเรามีการจัดตั้งเป็นสมาคมชัดเจนและมีการทำงานร่วมกันกับเมืองพัทยาอยู่โดยตลอด จึงขอยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทางสมาคมไม่มีสมาชิกที่มีนิสัยเช่นนั้นอย่างแน่นอนจึงอยากฝากทำความเข้าใจต่อสาธารณชน……