แกนนำ นปช. ร้องศาลพัทยาพิจารณา หลังมีการฟ้องซ้อนคดี
แกนนำ นปช. ร้องศาลพัทยาพิจารณา หลังมีการฟ้องซ้อนคดีล้มการประชุมอาเซียน ขอให้รอฟังคำวินิจฉัยจากศาลอาญาจนถึงที่สุด
วันที่ 23 พ.ย.63 แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกอบด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายพายัพ ปั้นเกตุ นายอดิสร เพียงเกษ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นพ.เหวง โตจิราการ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ธิดา ถาวรเศรษฐ ได้เดินทางมายังศาลจังหวัดพัทยา เพื่อมาติดตามข้อมูลการรายงานตัวต่อศาลหลังมีการฟ้องซ้อนในคดีการล้มประชุมอาเซียนเมื่อหลายปีมาแล้ว โดยมีกลุ่มสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ รอติดตามรายงานข่าวกันบริเวณด้านหน้าศาลจังหวัดพัทยา
ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า เนื่องจากได้มีการร้องมายังศาลจังหวัดพัทยาในว่าได้มีการฟ้องร้องซ้ำซ้อนกับที่กรุงเทพฯ ซึ่งทางศาลชั้นต้นก็ได้วินิจฉัยว่าเป็นการฟ้องซ้อน ต่อมาทางอัยการได้ยื่นอุทธรณ์กลับคำวินิจฉัยว่าไม่ได้ฟ้องซ้ำ พวกตนเองจึงได้ยื่นฎีกา ทั้งนี้ระหว่างรอฎีกาทางศาลจังหวัดพัทยาได้นัดกว้าง ๆ กันเอาไว้ในวันนี้เพื่อที่จะนัดพร้อม แต่ถ้าศาลฎีกายังไม่มีคำวินิจฉัย จึงได้ขอศาลจังหวัดพัทยาได้เลื่อนการวินิจฉัยออกไปก่อน
ซึ่งจะผูกพันกับคดีที่ศาลอาญา กรุงเทพฯ เพราะว่าพยานปากที่ 2 เป็นต้นไปนั้นก็เป็นพยานในคดีของพัทยา คือมีการฟ้องซ้อนกันมาอย่างชัดเจนตั้งแต่ต้น เพราะว่าทางทนายได้ซักถามคดีพัทยาในสำนวนแรกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำไมไม่ฟ้องกลุ่มของตนเองในศาลจังหวัดพัทยา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตอบว่า เหตุของตนเองนั้นเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ จึงได้มีการฟ้องร้องที่กรุงเทพฯ โดยวันนี้จะได้รอก่อนว่าจะมีการวินิจฉัยกันแล้วหรือยัง จึงอยากให้รอคำวินิจฉัยของศาลฎีกา
ด้าน นายอดิสร เพียงเกษ กล่าวว่า ได้เดินทางมาเพื่อตรวจพยานหลักฐานซึ่งพบว่าทางอัยการโจทก์ยังไม่ฟ้อง จึงขอนัดไปตรวจพยานอีกในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ทางจำเลยทั้ง 5 คนยังยืนยันว่า คดีความที่เกิดที่นี่รวมทั้งพยานหลักฐานเป็นชุดเดียวกันกับที่ศาลอาญาทุกประการ ซึ่งมองว่าเป็นการฟ้องซ้ำ จึงอยากให้รอคำวินิจฉัยของศาลฎีกาจนถึงที่สุดถึงมาดำเนินการต่อไป เพราะตามหลักกฎหมายคดีเดียวจำเลยต้องรับโทษเพียงแค่ครั้งเดียว ซึ่งเราก็ต้องรอคำวินิจฉัยจากศาลฎีกาต่อไป…..