วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 19, 2024
ชลบุรีพัทยาอาชญากรรม

จับขบวนการขนแรงงานเถื่อน

ศปชก.ภ.2 จับขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 12 ก.พ.64 ที่ศูนย์ประสานงาน ศอ.ปส.ภ.2 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พ.ต.อ.ดุลยพัฒน์ เตชพรชยาสินธ์ ผกก.สภ.หนองหมากฝ้าย ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าชุดภาคสนาม ชป.1 ชุดปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตำรวจภูธรภาค 2 (ศปชก.ภ.2) พร้อมกำลังตำรวจ ร่วมกันจับกุมขบวนการขนแรงงานต่างด้าวข้ามชาติผิดกฎหมาย ได้ผู้ต้องหาเป็นชาวกัมพูชาจำนวน 10 คน และผู้ต้องหาชาวไทย 2 คน ทราบชื่อคือ นายธรรมรัตน์ สุขเจริญ อายุ 53 ปี ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี กับนายสุบรรณ นนทการ อายุ 19 ปี ชาว จ.สระแก้ว พร้อมของกลางรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอีโนว่า สีบอร์นเงิน ทะเบียน 7กญ-5867 กรุงเทพมหานคร , รถปิคอัพ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทา ทะเบียน บต-5379 อ่างทอง และโทรศัพท์มือถือรวม 5 เครื่อง

พ.ต.อ.ดุลยพัฒน์ เตชพรชยาสินธ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญลักษม์ ปฏิบัติราชการ รอง ผบช.ภ.2 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตำรวจภูธรภาค 2 ได้มอบนโยบายให้ผู้ใต้บังคับบัญชาออกระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 8-12 ก.พ.64 โดยเน้นไปที่เรื่องยาเสพติด การพนันออนไลน์ และการขนย้ายแรงงานต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย


ต่อมาเวลา 04.00 น.วันนี้(12 ก.พ.)ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการลักลอบขนคนงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา มาที่บริเวณด้านหน้าเพชรอินรีสอร์ท เลขที่ 58/4 ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จึงส่งกำลังตำรวจไปซุ่มดูเหตุการณ์ กระทั่งรถยนต์ต้องสงสัยจำนวน 2 คัน ขับมายังบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้นพบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชารวม 10 คนโดยสารมากับรถทั้ง 2 คัน โดยมีนายธรรมรัตน์ สุขเจริญ อายุ 53 ปี เป็นคนขับรถเก๋ง ส่วนนายสุบรรณ นนทการ อายุ 19 ปี เป็นคนขับรถปิคอัพ จากการตรวจสอบพบว่าไม่มีเอกสารการขนย้ายแรงงาน จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่ศูนย์ประสานงาน ศอ.ปส.ภ.2 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี


แนวทางการสืบสวนทราบว่า กระบวนการนี้จะมีผู้ประสานงานฝ่ายกัมพูชา ทำหน้าที่เป็นคนกลางในการจัดหายานพาหนะสำหรับการ ขน ลำเลียง และเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา โดยคิดค่าตอบแทนจากคนต่างด้าว ในราคาคนละประมาณ 5,500 บาท ซึ่งกรณีนี้เข้าข่ายลักษณะ นำพา ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม และถือเป็นเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ จากการสอบสวนผู้ต้องหาชาวไทยทั้งสองคน ให่การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการว่าจ้างจากนายหนุ่ม (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) ให้ขับรถ ขนงานต่างด้าวชาวกัมพูชามาส่งยังบริเวณหน้ารีสอร์ทดังกล่าว และไม่ได้มีการขออนุญาตต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฉะเชิงเทรา ในการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เข้า-ออก จังหวัดฉะเชิงเทรา แต่อย่างใด


ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาชาวไทยทั้ง 2 คน ว่า “ร่วมกันนำพา หรือ กระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการอุปการะช่วยเหลือ หรือ ให้ความสะดวกแก่บุคคลต่างด้าวเพื่อให้พ้นการจับกุม และ ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ 40/2563 ข้อที่ 1 ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้า-ออก จังหวัดฉะเชิงเทรา ทุกกรณี” ส่วนชาวกัมพูชาแจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป…….