วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 19, 2024
ชลบุรีพัทยาสังคมสัตหีบ

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รับฟังปัญหาผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว นักธุรกิจ พื้นที่พัทยา หลังพบปัญหารอบด้านรุมเร้า ส่งผลให้การพัฒนาพื้นที่เป็นไปได้ยาก

ด้านหัวหน้าพรรคชี้ทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้ทันที  หากพรรคเพี่อไทยได้เข้าไปบริหารแบบยกทีม  วอนพี่น้องพัทยา  หากต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงเลือกเพื่อไทย ทั้งคน ทั้งพรรค

( 19 มีนาคม 2566)  วันนี้ที่โรงแรม อมารี  ห้องอาหารเปรโก้     นพ.ชลน่าน   ศรีแก้ว  หัวหน้าพรรคเพื่อไทย   พร้อมด้วย  นายแพทย์พรหมมินทร์  เลิศสุริยะเดช  ประธานคณะทำงานด้านนโยบาย พรรคเพื่อไทย, นายสนธยา  คุณปลื้ม  หัวหน้าทีมเพิ่มไทยชลบุรี พร้อมว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้ราษฎร พรรคเพื่อไทย จ.ชลบุรี ประกอบด้วย นายเชาวลิตร แสงอุทัย เขต 8 นายแมน อินทร์พิทักษ์  เขต 9 นายพนธกร ใคร่ครวญ เขต 10 ได้ร่วมกันลงพื้นที่  พัทยา  เพื่อรับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการด้าน ธุรกิจ  และการท่องเที่ยว  รวมถึงผู้แทนจากภาคบริการ  กับผลกระทบที่ได้เกิดขึ้นและ  ส่งผลกับภาคธุรกิจมาจนถึงปัจจุบัน   โดยมี  นายปรเมศวร์  งามพิเชษฐ  นายกเมืองพัทยา, นายบุญอนันต์   พัฒนสิน  นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา,  นางสาวพัชร์ศณัสม์ อัศวชัยโสภณ  อุปนายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยว เมืองพัทยา, นายนิธิศ  ไชสิทธิชัย  ที่ปรึกษานายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก,

นายดำรงค์เกียรติ  พินิจการ เลขานุการสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา   ,  นายเฉลิมพล โขนแจ่ม   ผู้แทนสมาคมอสังหาริมทรัพย์, นางสาว ชุติมา  จิระมงคล  คณะทำงานด้านยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองพัทยา, นายเอกสิทธิ์  งามพิเชษฐ์   กรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองพัทยา, นายกฤษณ์ จิระมงคล  ผู้ช่วยประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย/นายกสมาคมผู้ผสมเครื่องดื่มและบริการ, นายมานิตย์ ขันธการ ประธานร่มเตียงจอมเทียน, นางอรวรรณ สุขอนันต์วงศ์ นายกสมาคมชุมชนเมืองพัทยา  นายมานะ  ยาประคำ  ประธานสภาวัฒนธรรมเมืองพัทยา ,นายนริศ เพ็ชรรัตน์  นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าวอล์กกิ้งสตรีทพัทยา   เข้าร่วมในการชี้แจงปัญหาที่ภาคการท่องเที่ยว  ภาคการโรงแรม  และสังคม  ได้รับในช่วงที่ผ่านมา  และในปัจจุบัน

นายปรเมศวร์  งามพิเชษฐ์  นายกเมืองพัทยา   เปิดเผยถึง   การพัฒนาเมืองพัทยาที่ปัจจุบันพบว่ายังคงติดปัญหาหลายด้าน  ทั้งๆที่เมืองพัทยาเป็นเมืองพิเศษ  แต่กลับพบว่าการดำเนินการพัฒนาในด้านต่างๆจะต้องได้รับการพิจารณาจากส่วนกลางในการจัดสรรงบประมาณลงมาเพื่อพัฒนาพื้นที่อีกรอบ   ซึ่งลักษณะดังกล่าวส่งผลในการพัฒนาเมืองพัทยาเป็นไปด้วยความล่าช้า  แต่หากมีการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นสามารถบริหารจัดการทุกด้านได้ด้วยตัวเอง  ทั้งในเรื่องของงบประมาณ  การดำเนินโครงการจ่างๆ   เนื่องจากเป็นเมืองพิเศษ  ก็จะทำให้การพัฒนาในด้านตางๆเป็นไปได้อย่างรวดเร็วขึ้น

ด้านนายบุญอนันต์  พัฒนาสิน  นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา  ชี้แจงว่า  ในเรื่องของสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา   ถือว่าเป็นสนามบินที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจ  ใช้บริการเป็นจำนวนมาก  เนื่องจากว่าใกล้แหล่งท่องเที่ยวมากมาย  ใก้ลเมืองพัทยา  และเป็นสนามบินนานาชาติ  แต่กลับพบว่าไม่ได้ถูกพัฒนาให้เป็นสนามบินในเชิงพาณิชย์ได้อย่างเต็มศักยภาพ  เนื่องจากติดในขั้นตอนของระบบการจัดการในรูปแบบทหาร  การพัฒนาสนามบินในด้านต่างๆก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก  ภาคธุรกิจไม่กล้าลงทุน  เนื่องจากประสิทธิภาพในการรับนักทอ่งเที่ยวยังไม่ดี  ซึ่งหากภาครัฐมีการส่งเสริมและพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้มีประสิทธิภาพในการสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวได้มากกว่านี้  มันก็จะเป็นผลดีให้กับเมืองท่องเที่ยวอย่างเมืองพัทยาและภาคธุรกิจท่องเที่ยว  สถานประกอบการ  โรงแรม  ในพื้นที่เมืองพัทยาได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวกันอย่างคึกคัก  มีการจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น  ส่งผลให้เศรษฐกิจสะพัดอย่างต่อเนื่อง

นายดำรงค์เกียรติ  พินิจการ  เลขานุการสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา  ได้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงพื้นที่โซนนิ่ง  ซึ่งแผนการจัดระเบียนโซนนิ่งที่เมืองพัทยาใช้อยู่ปัจจุบันเป็นการแบ่งโซนนิ่งในปี 2525  และพบว่าปัจจุบันยังคงใช้อยู่   ซึ่งมันไม่สอดคล้องกับบริบทของเมืองพัทยา ณ.ปัจจุบันแล้ว  เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวมากขึ้น  ภาคธุรกิจเกิดการลงพทุนเพื่อรองรับการให้บริการนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น  ทำให้พื้นที่ในการพัฒนาส่งเสริมในรูปแบบการทำธุรกิจอยู่ในวงจำกัด   ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละรายก็อยากประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง  แต่ต้องมาถูกจำกัดด้วยกฏหมายการจัดพื้นที่โซนนิ่งเก่าๆ  ที่ยังไม่มีการขยับขยาย  เปลี่ยนแปลง     รวมไปผถึงการขยายเวลาเปิด-ปิด ของสถานบริการ  ที่พบว่าไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว  ที่ส่วนใหญ่เดินทางมาเพื่อพักผ่อน  การออกมาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวก็จะมีพฤติกรรมที่แตกต่างจากคนไทย  คือ ออกมาเที่ยวกันประมาณ 5 ทุ่ม – เที่ยงคืน    แต่สถานประกอบการบางแห่งต้องหยุดให้บริการเวลา 24.00 น.  บางสถานประกอบการ 01.00 น. -02.00 น.  แตกต่างกันไปตามการขออนุญาติในการประกอบกิจการ แต่ละประเภท   ทำให้เกิดความเสียหายด้านการทอ่งเที่ยว   ทั้งนี้พบว่าต่อวันสถานประกอบการเหล่านี้สูญเสียเงินจากการที่ต้องปิดเวลาตามกฏหมายกำหนด คือ 24.00 น.ไปไม่น้อย   หากเป็นไปได้ภาคธุรกิจให้มีการขยายเวลาตามห้วงเวลาที่เหมาะสม   ของสถานประกอบการนั้นๆ  เพื่อช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยว

樂威壯
ds/2023/03/728585-1024×842.jpg” alt=”” width=”800″ height=”658″ />

ขณะที่ผู้แทนภาคการท่องเที่ยวหลายท่าน  ก็ได้พูดถึงประเด็นการจัดกิจกรรมในพื้นที่เมืองพัทยาหลายๆกิจกรรม  จะต้องขออนุญาติในการจัดงานไปยังจังหวัดชลบุรี  เพื่อให้ทางจังหวัดชลบุรี  อนุมัติและดูความเหมาะสมว่าสามารถจัดงานได้หรือไม่  ทั้งๆที่การจัดงานในแต่ละครั้งก็ได้รับการพิจารณาจากเมืองพัทยาไปแล้วเรียบร้อย  ส่งผลให้ผู้จัดงานต้องมากังวลใจว่างานจะได้ไปต่อหรือไม่  ทั้งๆที่เป็นการจัดงานเพื่อส่งเสริม  และกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยแท้  และได้จัดสรรงบประมาณในการรองรับกิจกรรมเอาไว้แล้ว   ดังนั้นการปลดล็อค  ด้วยการให้อำนาจเมืองพิเศษในการบริหารจัดการเรื่องต่างๆ  ให้เป็นเมืองพิเศษที่แท้จริง  เป็นเรื่องที่หลายฝ่ายให้ความสำคัญ

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้พูดถึงเรื่องของการจัดกิจกรรมตามเทรนด์การท่องเที่ยว  ที่พบว่าสร้างรายได้ในต่างประเทศ  ได้อย่างมหาศาล  ซึ่งการจัดกิจกรรมตาเทนด์นั้นก็ต้องได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐด้วยเช่นเดียวกัน  ซึ่งอาจจะต้องเป็นการดำเนินการด้วยความรวดเร็ว  ลดขั้นตอนในการทำงานลง  ซึ่งการจัดงานตามเทรนด์การท่องเที่ยวนั้นในอนาคตอาจจะต้องมีการจัดทำกันมากขึ้น  เพราะเป้ฯกิจกรรมที่สร้างรายได้เข้าสู่เมืองท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี   ซึ่งหลังจากที่มีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องแล้วนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวก็มีความต้องการที่จะได้รับความสะดวกสบายในเรื่องของบริการคมนาคมขนส่ง   ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน   คนเร่ร่อนจรจัด  ต้องหมดไปจากพื้นที่   แต่ในปัจจุบันพบว่าการดำเนินการจับกุมคนเร่ร่อน  ดำเนินการได้เพียงแค่การนำคนเร่ร่อนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว  แต่ไม่นานก็กลับเข้ามาเหมือนเดิม  บางคนนอกจากเป็นคนเร่ร่อนแล้ว  ยังก่อเหตุชิงทรัพย์  ทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยว  และทำลายทรัพย์สินแหล่งท่องเที่ยวอีกด้วย   ซึ่งจะเป็นไปได้หรือไม่ที่ภาครัฐจะมีกฏหมายออกดูแลเมืองท่องเที่ยว   ให้มีความปลอดภัย  และ น่าอยู่มากยิ่งขึ้น

ด้านนายสนธยา  คุณปลื้ม  หัวหน้าทีมเพื่อไทยชลบุรี  กล่าวว่า  การเข้ามารับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการภาคธุรกิจ  อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในวันนี้ก็เพื่อเป็นการนำปัญหาที่ได้รับจากผู้ประกอบการตัวจริง  ไปวางแผนในการแก้ไข    ส่วนตัวเชื่อว่าเมืองทอ่งเที่ยวใหญ่ทุกเมือง  ล้วนแล้วแต่มีปัญฆาที่คล้ายๆกัน  แต่จะแตกต่างกันที่บริบทของวัฒนธรรม  ประเพณี  สังคม  ของแต่ละพื้นที่เท่านั้น  ในส่วนของคณะทำงานพร้อมเตรียมผลักดันให้ 8 จังหวัดภาคตะวันออกเป็นพื้นที่นำร่องในการแก้ไขปัญหา   โดยจะมีเมืองพัทยา  จังหวัดชลบุรี  เป็นโมเดลให้กับประเทศ

นพ.ชลน่าน  ศรีแก้ว  หัวหน้าพรรคเพื่อไทย  ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า  ต้องขอขอบคุณผู้ประกอบการการท่องเที่ยว  อุตสากรรมธุรกิจบันเทิง  และหลายๆกลุ่ม ในพื้นที่เมืองพัทยา  ที่มาร่วมกันในการเปิดเผยปัญหาในวันนี้    ซึ่งเมืองพัทยาเป็นเมืองพิเศษ  ปกครองโดยนายกเมืองพัทยา   แต่กลับพบว่าขาดเสถียรภาพในการจัดการ   ส่วนตัวมองว่าเมืองพัทยา  เป็นเมืองพิเศษ  ที่ถูกครอบเป็นพิเศษ  มีปัญหาเรื่อของโครงสร้างกฎหมาย   วิธีปฏิบัติ  การเชื่อมประสานหน่วยงานราชการ

ทั้งหมดพรรคเพื่อไทยรับรู้และมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจน   เน้นเรื่องของการกระจายอำนาจ  มอบอิสระในการดูแลอย่างเต็มรูปแบบ    ส่งเสริมในศักยภาพความเป็นเมืองที่มีหลายมิติ เกิดการเชื่อมโยงเชิงระบบทั้งหมด  ข้อติดขัดด้านธุรกิจจะหมดไปด้วยนโยบายของเพื่อไทย  ส่งผลให้เกิดธุรกิจใหม่ๆเกิดขึ้น  พร้อมมีกฏหมายพิเศษขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อดูแลเมืองพิเศษ    ที่พูดไปทั้งหมดคือความฝัน  ซึ่งสามารถเป็นจริงได้  ถ้าประชาชนมอบให้เพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศแบบเต็มระบบ  ถ้าการเข้ามาทำงานนั้นถ้าไม่เด็ดขาด หรือไม่เต็มระบบ  การพัฒนาหรือแก้ไขอะไรก็ไม่สามารถขยับได้  ดังนั้นจึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้ในการขอคะแนนให้กับพรรคเพื่อไทย  เลือกทั้งคน ทั้งพรรค  ให้ชลบุรีเป็นแลนด์สไลด์ให้ได้….