ตร.พัทยา โชว์ฟอร์ม ตามรวบ 2 โจ๋ไทย-เขมร มือปาระเบิดขวด รับสารภาพปาผิดตัวคิดว่าเป็นคู่อริ ส่วนระเบิดขวดซื้อของจากออนไลน์ทำตามสื่อโซเชียล
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 มี.ค. พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฐนพงษ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ชัยณรงค์ จิตต์สุนทร สว.สส. และกำลังฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมวัยรุ่น 2 คน คึกคะนองใช้ระเบิดขวดปาใส่ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ประกอบด้วยผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายดี อายุ 17 ปี ชาวกัมพูชา และนายณัฐพล หรือมิว จำลองรักษ์ อายุ 18 ปี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน 3กล 3594 ชลบุรี เสื้อผ้าที่สวมวันก่อเหตุ รวมถึงหมวกกันน็อคเต็มใบสีขาว
การจับกุมสืบเนื่องจากกลางดึก ของวันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งมีคนถูกปาระเบิดขวดใส่ และถูกไฟคลอกร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ปากซอยโพธิสาร ด้านฝั่งถนนสุขุมวิท หมู่ 6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สายตรวจ และฝ่ายสืบสวน จึงได้รีบไปทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บชื่อ นายธนกรณ์ บั้งเซ็น อายุ 21 ปี และ น.ส.วรกานต์ เพ็ชรคุ้ย อายุ 22 ปี อยู่ในสภาพเนื้อตัวมีแต่กลิ่นน้ำมันเชื้อเพลิง บริเวณช่วงต้นขาไปถึงกลางหน้าอก มีบาดแผลถูกไฟคลอกผิวหนัง จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์พัทยา ทำการปฐมพยาบาลและนำตัวส่ง รพ.เมืองพัทยา
ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบว่ามีกลิ่นน้ำมันเชื้อเพลิงคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ เวสป้า สีเทา ซึ่งเป็นของผู้บาดเจ็บ ได้รับความเสียหายที่บริเวณตัวรถด้านขวา มีร่องรอยถูกไฟไหม้ และคราบรอยน้ำมันเชื้อเพลิง ใกล้ๆ กัน บนพื้นถนนพบเศษขวดแก้วและเทปกาวพันสายไฟตกอยู่ จึงทำการเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการซักถามนายธนกรณ์ ผู้บาดเจ็บ ได้ความว่า ไม่เคยรู้จักกับผู้ก่อเหตุมาก่อน โดยก่อนเกิดเหตุเพิ่งออกมาจากรับประทานอาหารเพื่อกลับบ้านพัก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์สวนทางมา และปาระเบิดขวดใส่จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องกับใคร
ต่อมา ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ ในการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี พบว่าผู้ก่อเหตุใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงินดำ ไม่ทราบทะเบียน ขับขี่นั่งซ้อนท้ายมา 2 คน คนขับสวมเสื้อยืดสีแดง ไม่สวมหมวกนิรภัย ส่วนคนนั่งซ้อนท้ายซึ่งเป็นคนปาระเบิด สวมเสื้อยืดสีดำ สวมหมวกนิรภัยเต็มใบสีขาว เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดระยะทางที่คนร้ายได้หลบหนี ตลอดระยะทางตั้งแต่จุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร โดยใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
กระทั่งพบเบาะแสคนร้ายที่ก่อเหตุชื่อ นายดี เยาวชนชาวกัมพูชา พักอาศัยอยู่ที่ 472/21 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าที่ตำรวจขอทำการตรวจค้นและทำการสอบสวน นายดี ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ปาระเบิดใส่ผู้บาดเจ็บจริง อ้างว่าก่อนก่อเหตุถูกวัยรุ่นคู่อริขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเวสป้า ใช้อาวุธปืนข่มขู่บริเวณถนนสุขุมวิท ก่อนทางลงอุโมงค์ ตนและพวกได้ขับขี่ตระเวณติดตามกลุ่มวัยรุ่นคู่อริ โดยมีนายณัฐพล หรือมิว เป็นผู้ขับขี่
ส่วนตนเป็นคนนั่งซ้อนท้าย กระทั่งถึงบริเวณที่เกิดเหตุ คิดว่าเป็นรถจักรยานยนต์ของคู่อริ จึงได้ปาระเบิดใส่ เพื่อเป็นการแก้แค้น ก่อนจะมาทราบภายหลังว่าปาระเบิดใส่ผิดคนหลังเกิดเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีตามถนนพัทยาเหนือ และแยกย้ายกันกลับบ้านพัก จากนั้นตำรวจได้ขยายผลนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการจับกุมตัวนายณัฐพล หรือมิว ได้ที่บ้านเลขที่ 27/2 หมู่ 5 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เบื้องต้นทั้งคู่การให้รับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ส่วนระเบิดขวดนั้นผลิตขึ้นมาเอง โดยซื้อหลอดแก็ปใส มาจาก ลาซาด้า จากนั้นนำมา ดัดแปลงประกอบ อัดดินปืน ดินประสิว และใส่ ลูกปืนกลมขนาดเล็ก และกรวดหิน แล้วนำไปในเครื่องดื่มชูกำลังที่บรรจุน้ำมันเบนซินเต็ม พันทับด้วยเทปสายไฟพันติดเข้าหากัน โดยศึกษามาจากโลกโซเซียล
พล.ต.ต.กัมพล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กล่าว่า คดีดังกล่าวเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฏหมายบ้านเมือง อีกทั้งเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมืองพัทยา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ไม่ควรที่จะมีเหตุเช่นนี้เกิดขึ้น สภ.เมืองพัทยา จึงขอประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในพื้นที่เมืองพัทยา เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับนักท่องเที่ยว พร้อมวิงวอนผู้ที่คิดจะก่อเหตุ ทำให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมืองหรือกระทำผิดกฏหมาย ได้หยุดการกระทำนั้นเสีย……..