ตำรวจเร่งสอบและค้นหาพยานวัตถุ ยังไม่สรุปสาเหตุไฟไหม้ ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา
สำหรับความคืบหน้าเหตุการณ์ไฟไหม้อย่างรุนแรง ภายในสถานที่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชื่อดังระดับแนวหน้าของประเทศไทย “ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา” ถนนสุขุมวิท ขาเข้า อ.สัตหีบ หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นั้น
วันนี้ ( วันที่ 8 ก.ย.66 ) พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี เจ้าของคดี พร้อมด้วยตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี และเจ้าหน้าที่วิศวกร ของทางตลาดน้ำ 4 ภาค ได้ลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพ เบื้องต้นได้มีการเข้าไปเก็บหลักฐานสำคัญในที่เกิดเหตุพร้อมทั้งมีการสอบสวนพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเป็นคนงาน และรปภ. ช่วงกลางคืน
ซึ่งให้การตรงกันว่าต้นเพลิงยังไม่ทราบแน่ชัดแต่ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นและมีลูกไฟขนาดใหญ่ ก่อนจะลุกลามไปจุดอื่นอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ดังกล่าว ส่วนสาเหตุนั้นคงต้องรอให้ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี ทำการสอบปากคำพยาน และเก็บพยานวัตถุในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดจึงจะสามารถสรุปได้ว่าการเกิดเพลิงไหม้ในครัังนี้มาจากความประมาท หรือเป็นเหตุสุดวิสัยทั่วไป
ขณะที่ ทางตลาดน้ำ 4 ภาค ได้มีการเปลี่ยนสแลนผ้าใบด้านนอกใหม่ทั้งหมด โดยเปลี่ยนเป็นสแลนแบบหนาทึบเพื่อนำมาติดตั้งปิดล้อมรอบบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อป้องกันการมองเห็นสภาพภายใน ขณะที่ตลอดทั้งวันนี้ก็มีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ไม่ทราบเรื่อง ทยอยเดินทางมายังตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยาทั้งวัน แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะได้ปิดให้บริการเป็นการชั่วคราว
พร้อมกันนี้ทางตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา ได้ออกมาขอความร่วมมือกับผู้สื่อข่าวโดยระบุว่ายังไม่สามารถให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพร่องรอยความเสียหายหลังเกิดเหตุเพลิงได้ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย และกลัวทรัพย์สินจะเสียหาย จึงขอให้ทางตำรวจเข้าไปเก็บหลักฐานให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นทางผู้บริหารของตลาดฯ จะออกมาให้ข่าวอย่างเป็นทางการแน่นอน
ด้านนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา กล่าวว่าเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรง แต่เมืองพัทยาก็ร่วมกับเทศบาลข้างเคียงและกู้ภัยจำนวน 7 มูลนิธิ ที่มีกำลังกว่า 200 นายเข้าร่วมระงับเหตุ โดยใช้เวลากว่า 5.30 ชม.จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ส่วนหลังจากนี้คงจะต้องดูในแง่ขอกฏหมายว่าพื้นที่ของตลาดน้ำ 4 ภาคที่ได้รับความเสียหายนี้จะเข้าข่าย “ภัยพิบัติ” หรือไม่ เพราะจุดที่เสียหายมีพื้นที่ไม่ถึง 1 ไร่ เรื่องนี้รวมไปถึงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้วยที่เข้ากรอบของกฎหมายหรือไม่ สำหรับสาเหตุนั้นเบื้องต้นได้รับแจ้งจากทางผู้ประกอบการว่าอาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
จนทำให้พื้นที่เกิดคามเสียหายรวมมูลค่ากว่า 70-100 ล้านบาท จากร้านค้ากว่า 40-50 ราย ส่วนกรณีนี้จะส่งผลกระทบถึงการท่องเที่ยวหรือไม่นั้น คงบอกได้ว่าคงมีผลบ้างซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายเพราะพื้นที่นี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างมาก ด้วยเป็นแหล่งแสดงศิลปวัฒนธรรมที่สวยงาม แต่เมืองพัทยาเองก็ยังมีพื้นที่ด้านการท่องเที่ยวที่สามารถรองรับได้อีกเป็นจำนวนมากดังนั้นคงไม่เกิดผลกระทบมากนัก.