ธนารักษ์ชลบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริษัทยักษ์ใหญ่ ลักลอบสร้างท่อส่งน้ำดิบ ถนนขอบอ่างเก็บน้ำหนองค้อ ศรีราชา จนท.สั่งยุติการก่อสร้างหากพบยังดื้อเจอใช้กฏหมายขั้นเด็ดขาด

จากกรณี เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา สำนักงานธนารักษ์ชลบุรี ได้รับการร้องเรียน ว่าที่บริเวณถนนรอบขอบอ่างเก็บน้ำหนองค้อ ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มีการแอบลักลอบสร้างท่อโดยมิได้รับอนุญาต จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวปรากฎว่าเป็นพื้นที่ราชพัสดุทรัพย์สินของกระทรวงการคลังของกรมธนารักษ์ตามแนวถนนทางหลวงหมายเลข ชป3241 โดยบริษัทอีสวอเตอร์เข้าดำเนินการขุดวางท่อน้ำดิบโดยมิได้รับอนุญาตจากกรมธนารักษ์ เบื้องต้นกรมธนารักษ์ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานละเมิดฝ่าฝืนกฎหมาย พร้อมทั้งทำหนังสือส่งยุติการดำเนินการก่อสร้างให้กับบริษัทดังกล่าวแล้ว แต่ปรากฎว่า อีสวอเตอร์ยังละเมิดเข้าดำเนินการขุดท่อต่อ และเพิกเฉยต่อคำสั่ง

         ล่าสุด เวลา 10.30 น. วันนี้ 28 ธ.ค. มีรายงานว่า นายเกริกชัย พรหมดวง ธนารักษ์พื้นที่ชลบุรี พร้อมด้วย ร.ต.อ.ภควัฒน์ เกตุเกล้า รอง สวป.สภ.หนองขาม ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง โดยพบว่ายังฝ่าฝืนคำสั่งมีคนงานกำลังใช้เครื่องมือ และอุปกรณ์ทำการขุดวางท่อขนาดใหญ่ ซึ่งมีการขุดหลุมลึกขนาดใหญ่ และกว้างหลายเมตร โดยมี นายฉัตรชัย วิศวกร บริษัทอีสวอเตอร์ เป็นผู้ควบคุมดูแลการขุดเจาะบริเวณโครงการดังกล่าว เจ้าหน้าหน้าที่จึงสั่งให้หยุดการทำงานทันที พร้อมชี้แจงในข้อกฎหมายการฝ่าฝืนคำสั่ง

          จากการพูดคุยกับ วิศวกร บริษัทอีสวอเตอร์ ทราบว่าทางบริษัทอีสวอเตอร์ ได้มีโครงการขุดวางท่อน้ำดิบในระยะทางยาวประมาณ 800 เมตร บริเวณถนนขอบอ่างเก็บน้ำหนองค้อ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และเข้าใจและทราบว่าพื้นที่ดังกล่าว อยู่ในความดูแลของกรมทางหลวง บริษัทจึงได้เข้าไปขออนุญาตการก่อสร้างขุดเจาะวางท่อส่งน้ำดิบ ก่อนจะได้รับการอนุญาตจากกรมทางหลวง ทางบริษัทจึงเข้าดำเนินการก่อสร้างตามโครงการบริษัท ไม่ทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินราชพัสดุ และเพิ่งมาทราบภายหลังว่า เป็นที่ราชพัสดุ โดยมีกรมธนารักษ์เป็นผู้ดูแลที่ดินพื้นดังกล่าว

        เบื้องต้น นายเกริกชัย พรหมดวง ธนารักษ์พื้นที่ชลบุรี ได้สั่งให้บริษัทยุติการทำงาน พร้อมรื้อถอนเครื่องจักรออกจากพื้นที่ทันที อย่างไรก็ตาม หากยังมีการฝ่าฝืนคำสั่ง เจ้าหน้าที่จะได้ทำการจับกุมขั้นเด็ดขาด และยึดสิ่งของที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ราชพัสดุทั้งหมด ส่วนค่าความเสียหายยังประเมิณค่าไม่ได้ คงต้องให้ผู้ประเมินฝ่ายชำนาญการเข้ามาตรวจสอบภาพความเสียหายอีกครั้ง.