ตร.บางละมุง จับสองพี่น้อง ยกพวกถล่มบ้านคู่อริ เหตุฉุนซ่อมรถให้ฟรี กลับไม่มีคำขอบคุณ แถมพูดจาเย้ายวน เล่นลูกนักเลงใส่
จากกรณีกลุ่มวัยรุ่นนับ 10 คน บุกถล่ม-ปืนลูกซองยิงใส่บ้านคู่อริ นายอนุชิต หรือเวฟ ฉายจรุง อายุ 22 ปี โชคดีคมกระสุนเฉี่ยวเข้าด้านหลังหัวไหล่ด้านขวาเป็นรอยถากๆ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย นอกจากนี้ยังพบบริเวณกำแพงบ้าน ต้นมะม่วง ถูกยิงจนได้รับความเสียหาย เหตุเกิดขึ้นที่บ้านพักหลังหนึ่งภายในซอยเอสอาร์ ม.4 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อช่วงกลางดึก วันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุด วันนี้ 18 ก.พ. มีรายงานว่า หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง ได้มีการเรียกประชุมสืบสวน และพนักงานสอบสวน เพื่อคลีคลายคดีดังกล่าว พร้อมทั้งเร่งสอบปากคำคนเจ็บและพยาน รวมถึงการเก็บหลักฐานต่างๆ เพื่อขออำนาจศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ จนกระทั่งช่วงเย็นที่ผ่านมา ศาลจังหวัดพัทยาได้อนุมัติหมายจับ 2 ในกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นหัวโจก ทราบชื่อคือ นายสาโรช อายุ 34 ปี และ นายชานนท์ อายุ 20 ปี สองพี่สองเจ้าของอู่ช่างนิ่ม ซ่อมรถจักรยานยนต์ ย่านชุมชนบ้านแกรก ในฐานความผิด “ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในเคหสถานผู้อื่นโดยใช้กําลังประทุษร้ายหรือขู่ว่าจะใช้กําลัง ประทุษร้ายโดยมีอาวุธหรือร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปในเวลากลางคืน”
ภายหลังตำรวจชุดสืบสวนได้รับหมายจับ จึงนำกำลังออกติดตามไล่ล่าและกดดันตามยุทธวิธี จนกระทั่งได้มีผู้ใหญ่ในพื้นที่ติดต่อพาตัวหัวโจกกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน เข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รองผกก.สส.สภ.สภ.บางละมุง โดยจากการตรวจสอบปรากฏว่าทั้งสองเป็นบุคคลตามหมายจับจริง ตำรวจจึงอ่านหมายจับและข้อกล่าวหาให้รับทราบ ก่อนจะทำการควบคุมตัว และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม นายชานนท์ น้องชายเจ้าของอู่ เล่าว่า คืนเกิดเหตุ หนึ่งกลุ่มคู่อริซึ่งยอมรับว่ารู้จักกัน แต่นิสัยไม่ดีเลยเลิกคบ ได้เข็นรถจักรยานยนต์ เข้ามาต่อโซ่รถที่ขาด พี่ชาย ซึ่งเป็นเจ้าของอู่ จึงซ่อมและต่อโซ่ให้ฟรีไม่เก็บเงิน โดยทางกลุ่มคู่อริไม่มีการขอบคุณสักคำ แถมยังแสดงท่าทางออกลูกนักเลง พูดจาเย้ายวน และยังพกอาวุธสนับมือเข้ามาด้วย ด้วยความโมโหจึงระดมพวกเพื่อไปนัดเคลียร์ที่บ้านคู่อริ แต่ไม่ลงตัวถูกท้าตีท้าต่อย และบุกเข้าไปทำร้ายดังกล่าว
ส่วนคนที่ใช้ปืนยิงนั้น เป็นรุ่นน้องในกลุ่มที่ไปด้วยกันโดยไม่ทราบมาก่อนว่ามีปืน และใช้ปืนก่อเหตุยิงจนเหตุการณ์บานปลาย เพราะความบันดาลโทสะ และหลังจากก่อเหตุน้องคนยิงได้ตกใจ คิดว่ากลุ่มคู่อริถึงแก่ความตาย ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีกลับบ้านญาติที่จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ในระหว่างการเดินมากลับมามอบตัวกลับตำรวจ.