ชื่นชม! เทศกิจจอมเทียน คว้าถังดับเพลิงไต่ระเบียงฉีดสกัดไฟไหม้ก่อนลุกลามเข้าบ้านเรือนประชาชน

จากกรณี เพจเทศกิจพัทยา โพสต์ภาพเจ้าพนักงานเทศกิจเขตจอมเทียน สวมเสื้อวินจักรยานยนต์รับจ้างใช้ถังดับเพลิงฉีดสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้สายสื่อสาร บริเวณภายในซอย 16 พัทยากลาง จ.ชลบุรี ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีประชาชนที่พบเห็นโพสต์ และที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างพากันเข้ามาชื่นชมกับเจ้าหน้าคนดังกล่าวที่มีความรับผิดชอบ เข้าเผชิญเหตุช่วยเหลือชาวบ้านและนักท่องเที่ยว ถึงแม้จะอยู่ในนอกเวลาปฎิบัติหน้าที่

เย็นวันนี้ 23 เม.ย. ทีมข่าวเดินทางไปสัมภาษณ์ นายชลาธร หมอยาไทย พนักงานเทศกิจ เขตจอมเทียน ซึ่งเป็นบุคคลสวมเสื้อวินจักรยานยนต์รับจ้างที่เข้าไปช่วยเหลือฉีดสกัดเพลิงในวันเกิดเหตุ เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันหยุด ขณะที่กำลังใช้เวลาว่างวิ่งรถจักรยานยนต์รับจ้างหารายได้เสริมเพื่อเลี้ยงชีพครอบครัว อยู่ที่บริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ จู่ๆ ได้มีชาวบ้านตระโกนร้องขอความช่วยเหลือ

จากนั้นจึงรีบวิ่งไปเข้าตรวจสอบ พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้สายสื่อสารสูงจากพื้นประมาณ 5 เมตร และเกรงว่าถ้าไฟลุกลามเข้าไปถึงคอมเพรสเซอร์แอร์อาจจะเกิดการระเบิดได้ จึงโทรศัพท์แจ้งศูนย์วิทยุสีครามเมืองพัทยา ประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ก่อนจะรีบวิ่งคว้าถังดับเพลิงของชาวบ้านในละแวกนั้น เข้าไปฉีดเพลิงที่กำลังลุกไหม้ แต่ด้วยระยะที่ฉีดแรงดันของถังพุ่งไม่ถึง จึงตัดสินใจวิ่งขึ้นไปบนชั้น 2 ของอาคารที่ติดกับเสาที่กำลังลุกไหม้

แล้วกระโดดข้ามหน้าต่างไต่ขอบระเบียงเข้าไปฉีดสกัดเพลิงไว้ได้สำเร็จ ก่อนจะลุกลามไปในเขตบ้านเรือนประชาชน ภายหลังเกิดเหตุรู้สึกดีใจที่มีชาวบ้านที่พบเห็นเหตุการณ์เข้าไปชื่นชมการทำงาน ถึงแม้จะอยู่ในนอกเวลางาน ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่าไม่ได้คิดอะไร นอกจากคิดช่วยเหลือให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวให้อยู่ในความปลอดภัย ด้วยจิตวิญญาณเจ้าพนักงานเทศกิจ ตามแบบสอนและการอบรมที่ถูกฝึกฝนมาตลอด 6 ปี

ทางด้าน จ่าเอก สเวทย์ เพิ่มพูล นักจัดการงานเทศกิจชำนาญการสำนักปลัดเมืองพัทยา ในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรง ได้กล่าวชื่นชนในการปฎิบัติหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในครั้งนี้ สำหรับงานเทศกิจ เขตจอมเทียน ซึ่งมีกำลังพลทั้งหมด 31 นาย กระจายกำลังดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในเขตรับผิดชอบ โดยทางเทศกิจเขตจอมเทียนจะมีการส่งกำลังพลไปฝึกทบทวนหลักสูตรตลอดทุกปี และปลูกฝังให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยมีความสามัคคี และสามารถช่วยเหลือผู้เดือดร้อนได้ตลอดเวลา ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในเวลางาน ตามนโยบาย นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา.