ตรวจสอบแล้ว! เด็กกรีดร้องถูกทำร้าย พบเป็นการร้องไห้เพราะคิดถึงแม่ที่ออกไปทำงาน

จากกรณี เพจอีซ้อขยี้ข่าว3 ได้นำคลิปวิดีโอโพสต์ลงในโซเชียล ลักษณะมีเสียงเด็กกรีดร้อง ซึ่งคลิปวิดีโอมีความยาวประมาณ 38 วินาที พร้อมข้อความระบุว่า ขอความช่วยเหลือช่วยเด็กถูกทำร้ายร่างกายเป็นประจำ พิกัดบ้านเอื้ออาทร นาจอมเทียน ตึก 88 ชั้น 3 หลังจากนั้นมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและแชร์กันออกไปอย่างกว้างขวาง

ล่าสุดบ่ายวันนี้ 26 พฤษภาคม 2567 นายอภิชาติ คงถอด ปลัดอำเภอสัตหีบ น.ส.นงค์ลักษณ์ จิตรใจกล้า รองนายกเทศบาลตำบลเขาชีจรรย์ พ.ต.อ.วัฒนชัย แสงฤทธิ์ ผกก.สภ.นาจอมเทียนกำนันผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วยประธานชุมชน เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.นาจอมเทียน ลงพื้นที่มาตรวจสอบตึกจุดเกิดเหตุ ภายในหมู่บ้านเอื้ออาทรนาจอมเทียน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งไปพบแม่ของเด็กคนดังกล่าว แต่ไม่พบตัวเด็ก เนื่องจากเดินทางไปทำกิจกรรมที่คริสตจักรกับกลุ่มเพื่อน

ด้าน น.ส.ณัฐชา ชุนน์ อายุ 27 ปี แม่เด็กได้ชี้แจงว่าที่เด็กร้องเกิดจากแม่ต้องออกไปทำงานในช่วงหัวค่ำจนถึงเช้า หลังจากที่เพิ่งสมัครงานได้ 3 วัน ซึ่งน้องจะร้องในช่วงเวลาสั้นๆ หลังจากที่แม่เดินออกจากห้องไปทำงาน ซึ่งตนเองก็คอยสังเกตอาการของลูกเพราะเนื่องจากที่ผ่านมา ลูกจะมีนิสัยติดแม่ ส่วนสามีของตนเองนั้นเดินทางกลับไปยังต่างประเทศ เนื่องจากเป็นคนต่างชาติ นอกจากนี้ตนเองก่อนที่จะออกจากห้องก็ได้ทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้ให้ลูกหากมีอะไรก็ให้ติดต่อหาแม่ ส่วนเรื่องการตียอมรับก็มีบ้าง เพราะเนื่องจากลูกออกไปเล่นกับเพื่อนแต่กลับบ้านดึกดื่นคนเป็นแม่ก็ย่อมเป็นห่วงลูก ที่ตีเพื่อสั่งสอนแต่ไม่ถึงขั้นร้ายแรง ซึ่งหลังจากนี้ก็คงจะต้องออกจากงานและมาดูแลลูก หรือถ้าหากจะกลับไปทำงาน ก็คงจะมีการวางแผนใหม่ในการดูแลลูก เพื่อไม่ให้ชาวบ้านและสังคมเกิดความเข้าใจผิด

หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้พาแม่ของเด็ก ไปพบกับด.ญ.เอมม่าที่คริสตจักรแห่งหนึ่งบริเวณชายหาดจอมเทียนเมืองพัทยา หลังจากที่ลูกสาวได้เจอหน้าแม่ก็วิ่งมาอบกอด ผู้เป็นแม่ทันที ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถาม ด.ญ.เอมม่า โดยน้องได้ยืนยันว่าแม่ไม่ได้ทำร้ายที่ร้องตามที่ปรากฏภายในในคลิปวิดีโอ เนื่องจากแม่ออกไปทำงานซึ่งหนูเองรักแม่ และไม่อยากห่างกับแม่

ขณะที่ นายณัฐวัฒน์ จันทร์อิ่ม เพื่อนบ้านซึ่งเป็นคนพาด.ญ.เอมม่า ออกมาทำกิจกรรมที่คริสตจักรในทุกวันอาทิตย์ ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่ทราบข่าว ตอนที่ตนมารับ น้องในช่วงเช้าก็ได้สังเกต ซึ่งก็ไม่พบบาดแผลตามร่างกาย หากถูกทำร้ายจริงก็จะมีร่องรอยฟกช้ำตามร่างกาย ซึ่งปกติน้องเป็นคนร่าเริงเข้ากับเพื่อนง่าย.