เหี้ยม! พบศพเฒ่าอิหร่าน-ภรรยา โดนมัดมือเท้า ฆ่ารัดคอ หมกศพร้านอาหาร เชื่อเป็นฝีมือคนงานชาวพม่า คาดปมแค้นถูกตีไม่จ่ายเงินเดือน
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 16 ก.ค. พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุฆาตกรรมชาวต่างชาติ พร้อมภรรยาชาวไทย ที่ร้านอาหารอาหรับ โครงการเดย์-ไนท์ พัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังชุดสืบสวน ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยา ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น โดยเปิดเป็นร้านอาหารอาหรับ ส่วนขั้นบนที่เหลือเป็นห้องพัก ที่ชั้น 2 ภายในห้องนอนพบศพ นายโมจตาบา ฆานบาเรียซาด อายุประมาณ 64 ปี สัญชาติ อิหร่าน เจ้าของร้านอาหาร นอนอยู่บนพื้น สภาพสวมเสื้อยืดสีดำ ท่อนล่างเปือย บริเวณแขนซ้ายพบค้อนตกอยู่ ส่วนบนเตียงนอนพบศพ น.ส.ธนาภรณ์ พูนประโคน อายุ 50 ปี ภรรยาชาวไทย เสียชีวิตในสภาพถูกคลุมด้วยผ้านวมสีแดง สภาพเน่าเปื่อย ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณจุดเกิด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กั้นจุดเกิดเหตุ รักษาสภาพจุดเกิดเหตุเอาไว้คงเดิม เพื่อเก็บพยานและหลักฐานต่างๆให้ครบถ้วน โดยมีประชาชนมและชาวบ้านและนักท่องเที่ยวบริเวณนั้น ที่ทราบข่าวถึงเหตุฆาตกรรม ต่างพากันเข้ามาดูเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
สืบเนื่องจาก ก่อนเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้รับการประสานจากญาติภรรยาเจ้าของร้านอาหาร เพราะว่าพบความผิดปกติ ไม่สามารถติดต่อได้เป็นระยะเวลา 4 วัน ตำรวจจึงได้เดินทางมาตรวจสอบ ปรากฎว่าร้านปิดอยู่ ตระโกนเข้าไปในตึกก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงประสานช่างกุญแจ เพื่อเข้าไปทำการตรวจสอบภายในตึก และได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยลงมา จากกการขึ้นไปดูชั้นสองซึ่งเป็นห้องนอน พบทั้งสองถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม
สอบถาม นายพันธุ์ดี 57 ปี หมอนวด เล่าว่า ปกติร้านก็จะเปิดตามปกติเหมือนทุกวัน กระทั่งวันที่ 12 ก.ค. พบความผิดสังเกตร้านอาหารไม่ยอมเปิด และก็ไม่เห็นมีใคร ตนกับคนอื่นๆก็ยังมาคุยกันว่าหายไปไหน จากนั้นลูกสะใภ้ภรรยาเจ้าของร้านอาหาร เหมือนไปเข้าฝันบอกคนให้มาช่วยหน่อย อยู่ที่ร้านไม่สามารถออกได้ จนกระทั่งมีตำรวจมาตรวจสอบและพบศพ ส่วนประเด็นการสังหารไม่แน่ใจว่าเกิดขึ้นจากอะไร
สำหรับนิสัยชาวอิหร่านเจ้าของร้าน ชอบใจร้อนเคยเห็นทะเลาะกับลูกค้าอยู่บ่อยครั้ง ส่วนภรรยา เป็นคนที่มีจิตใจดี ชอบคุยสนุกกับเพื่อนบ้าน และชอบมานวดที่ร้านเป็นประจำ ขณะที่พนักงานชาวพม่า เห็นทำงานที่ร้านอาหารได้ 3-4 เดือน จากการดูเป็นคนขยันหมั่นเพียร โดยวันเกิดเหตุน่าจะคืนวันที่ 11 ก.ค. ได้ยินเสียงเจ้าของร้าน ทะเลาะกับลูกจ้างชาวพม่า เรื่องท้วงเงินเดือนกับนายจ้างเจ้าของร้านอาหาน จากนั้นก็ไม่พบใครอีกเลย
ทางด้าน น.ส.เนย เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามร้านอาหารเกิดเหตุ ระบุว่า ได้ยินชาวบ้านคุยกันว่าสงสารพนักงานชาวพม่า เพราะถูกนายจ้างเจ้าของร้านอาหารตบตี เวลาเข้าไปท้วงเงินเดือน ส่วนตัวพนักงานพม่าจะมีนิสัยนิ่งๆ ไม่ยุ่งกับใคร พร้อมกับมอบหลักฐานวงจรปิดให้กับผู้สื่อข่าว ช่วงเวลา 23.19 น. เป็นภาพพนักงานขัลรถจยย.เข้ามาจอดที่ร้าน และเวลา 23.21 น. วันที่ 11 ก.ค. เป็นภาพเจ้าของร้านอาหารกับภรรยาเดินควงแขนเข้าไปที่ร้านอาหารและภาพสุดท้ายเวลา 06.20 น. วันที่ 12 ก.ค. เป็นนาทีพนักงานชาวพม่าสะพายกระเป๋า ขับรถจยย.ออกไป พร้อมกับแฟนสาว
โดยจากการตรวจสอบสภาพศพ ต่างชาติเจ้าของร้านอาหารถูกรัดคอด้วยกางเกงวอร์มสีแดง ส่วนภรรยา ถูกเปลือยกาย ข้อเท้าทั้งสองข้างถูกรัดด้วยเชือกฟางสีเขียว ส่วนแขนทั้งสองข้างถูกรัดด้วยสายชาร์จโทรศัพท์มือถือ นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง ส่วนบาดแผลอื่นๆนั้น เบื้องต้นยังไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากศพอยู่ในเน่าเปื่อย สำหรับผู้ลงมือก่อเหตุว่าเป็นลูกจ้างชาวพม่า ทราบชื่อคือ นายมิน อายุ 21 ปี หลังเกิดเหตุได้พา น.ส.อี แฟนสาวออกไปจากร้าน โดยใช้รถจักรยานยนต์ของร้านในการหลบหนี ขณะอยู่ในระหว่างการติดตามของตำรวจจากหลายหน่วยงานที่บูรณาการกำลังร่วมกันทำงานอย่างหนัก.