วันที่ 4 ของการบังคับใช้กฎหมาย มีการปะทะเป็นระยะ และตรวจพบที่พักพิงชั่วคราว เจ้าหน้าที่ยังคงพยายามกระชับวงล้อม และใช้การเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ ผู้ก่อการร้ายยอมออกมามอบตัว
วันนี้ (30 กรกฎาคม 2567) เวลา 16.00 น. พันเอก เอกวริทธิ์ ชอบชูผล โฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เผยความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่เข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่บ้านคลองช้าง ตำบลนาเกตุ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เข้าสู่วันที่ 4 ของการปฏิบัติ โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังคงกระชับวงล้อมเข้าตรวจสอบพื้นที่ ที่คาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจะหลบซ่อนตัว รวมถึงยังคงใช้ความพยายามในการเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงยอมออกมามอบตัวเพื่อต่อสู้ตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และในระหว่างการตรวจสอบพื้นที่ ผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่เป็นระยะ จึงเกิดการยิงตอบโต้กันขึ้น
และในวันนี้ ได้มีการตรวจพบที่พักพิงชั่วคราวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ต่อมาจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด และชุดสุนัขทหารหน่วยเฉพาะกิจอโณทัย เข้าตรวจสอบพื้นที่และตรวจสอบวัตถุระเบิดบริเวณโดยรอบ ที่พักพิงชั่วคราว จำนวน 2 จุด โดยจุดที่ 1 เป็นลักษณะป้อมเล็กๆ สำหรับเข้าเวรยาม มีเสบียงอาหารและของใช้ส่วนตัวรวมถึงพบบ่อน้ำเล็กๆ สำหรับดื่มกิน และจุดที่ 2 เป็นที่พักชั่วคราวมีสภาพเก่าไม่มีการใช้งานมานาน จากนั้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานฯ เข้าดำเนินการรวบรวมวัตถุพยาน หลักฐานต่างๆ ในพื้นที่อย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบหาความเชื่อมโยงของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งดำเนินการกระชับวงล้อม เพื่อจำกัดเสรีการปฏิบัติของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถควบคุมตัวได้ ปัจจุบันเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการควบคุมพื้นที่ ยังไม่จบภารกิจ สำหรับความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากผู้ใดพบเบาะแส หรือพบวัตถุต้องสงสัย รวมถึงบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ….
เปิดประวัติ “อับดุลการิม สะตาปอ” ต้องสงสัย “มือบึ้มปัตตานี”
ยุทธการบ้านคลองช้าง กลืนชีวิต “จ่าทหาร” ไปแล้ว 1 นาย ร้อยโทบาดเจ็บสาหัสอีก 1 นาย และอาสาสมัครทหารพราน บาดเจ็บไม่มากนักอีก 1 นาย แต่ปฏิบัติการยังไม่จบ การปิดล้อมพื้นที่ลักษณะนี้ ฝ่ายความมั่นคงมี “เครื่องมือพิเศษ” ตรวจจับความเคลื่อนไหว แม้จะซ่อนตัวอยู่ในป่ารกทึบก็ตาม
“เครื่องมือพิเศษ” ที่ว่านี้มีทั้งโดรนตรวจการณ์ โดรนถ่ายภาพ มีทั้งเครื่องตรวจจับความร้อน และข้อมูลจากสายข่าว
ข้อมูล ณ เวลานี้ ฝ่ายเจ้าหน้าที่เชื่อว่า มีสมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบหลบซ่อนอยู่ในป่ายางรบทึบกลางทุ่งโล่งของบ้านคลองช้าง ราวๆ 3-4 คน ไม่ชัดว่าได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตบ้างหรือไม่ เพราะร่องรอยที่พบยังมีเฉพาะรองเท้า กับเป้สนาม 3 ใบ แต่ยังไม่มีรอยเลือดหรือรองรอยการสูญเสีย
กลุ่มติดอาวุธต้องสงสัยที่ซ่อนตัวอยู่ เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นกลุ่มของ “นายอับดุลการิม สะตาปอ” ซึ่งยังไม่ชัดว่าตัวนายอับดุลการิม อยู่ในแนวป่านี้ด้วยหรือไม่
โดยกลุ่มติดอาวุธที่ว่านี้ เกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดและวางเพลิงเผาโรงไฟฟ้าชีวมวล 2 แห่ง 2 อำเภอ คือ อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี กับ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เมื่อวันที้่ 26 เมษายน 2567 ที่ผ่านมาด้วย
เปิดประวัติโยงปล้นเต็นท์รถวังโต้ – จยย.บอมบ์หนองจิก
สำหรับประวัติของ นายอับดุลการิม สะตาปอ จากแฟ้มข้อมูลของฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า เกิดเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2532 ปัจจุบันอายุ 35 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ ตำบลปากล่อ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
นายอับดุลการิม เริ่มปรากฏชื่อเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่อย่างชัดเจน ต่อเนื่องในช่วงแรกๆ เมื่อปี 2562 จากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดแบบ “มอเตอร์ไซค์บอมบ์” บริเวณตลาดนัดบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่และประชาชนรวม 26 ราย (red arrow right)นายอับดุลการิม ถูกซัดทอดจากคำสารภาพของคนร้ายที่ถูกจับกุมว่า ทำหน้าที่เป็นมือระเบิด และมีญาติคือ นายอับดุลกอเดร์ สะตาปอ เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ติดตั้งระเบิดเอาไว้ นำไปจอดก่อเหตุ ก่อนจุดระเบิดขึ้น
หลังจากนั้น นายอับดุลการิม ก็มีชื่อเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุรุนแรงอีกหลายเหตุการณ์ เช่น เหตุการณ์ลอบวางระเบิดและยิงซ้ำเจ้าหน้าที่ อส. ประจำชุดคุ้มครองตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ เสียชีวิต 2 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ชุด รปภ.ครู เมื่อวันที่ 16 กันยายน ปี 2562
กระทั่งปี 2567 เจ้าหน้าที่เชื่อว่า นายอับดุลการิม และเครือข่ายมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดโรงไฟฟ้าในพื้นที่ อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี และ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 26 เมษายน เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุ ทั้ง 2 เหตุการณ์ เป็นพื้นที่รอยต่อของอำเภอโคกโพธิ์ ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของนายอับดุลการิม และสมาชิกในกลุ่ม (red arrow right)เหตุการณ์ล่าสุดที่มีข่าวว่า นายอับดุลการิม เข้าไปเกี่ยวข้อง คือเหตุลอบวางระเบิดหน้าร้านขายของชำ และหลังศาลาที่พักผู้โดยสาร บริเวณแยกนาเกตุ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 3 และ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมานี้เอง แต่เจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้ทั้งสองลูก
จากการตรวจสอบย้อนหลัง เจ้าหน้าที่ยังพบว่า นายอับดุลการิม สะตาปอ เป็นหนึ่งในกลุ่มคนร้ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปล้นรถปิคอัพ จากเต็นท์รถวังโต้ คาร์เซ็นเตอร์ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2560 รวมทั้งหมด 6 คัน เพื่อนำไปทำคาร์บอมบ์ด้วย (red arrow right)ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปล้นทองครั้งมโหฬาร ที่ห้างทองสุธาดา ที่ตลาดนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา เมื่อเดือนสิงหาคม 2562 ได้ทองไปถึง 2,156.50 บาท
โดยทั้ง 2 เหตุการณ์นั้น กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นทั้งกลุ่มที่มีความเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา และกลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ปัตตานี ซึ่งเป็นอำเภอรอยต่อของจังหวัดสงขลา คือ อำเภอหนองจิก กับ อำเภอโคกโพธิ์ จึงมีชื่อ นายอับดุลการิม เกี่ยวข้อง
จนทำให้ในอดีตปรากฏภาพของ นายอับดุลการิม สะตาปอ ในป้ายประกาศจับตามด่านตรวจต่างๆ ในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา และจังหวัดปัตตานี โดยเฉพาะอำเภอรอยต่อกับจังหวัดสงขลา…..